ศูนย์ข่าวชาวบ้านนิวส์
Khawchawbannews

กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้

หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 10
21
วิสาหกิจชุมชน ผนึกเครือข่าย 3 มหา’ลัย ประกวดชุดยูนิฟอร์มแกนนำท่องเที่ยวชูแนวคิดความงดงามของวัฒนธรรมและวิถีชีวิตชาวตำบลหัวเขา


                วิสาหกิจชุมชน จับมือ มรภ.สงขลา ม.ทักษิณ มทร.ศรีวิชัย จัดประกวดชุดยูนิฟอร์มแกนนำท่องเที่ยวชุมชน ต.หัวเขา ภายใต้แนวคิดความงดงามของวัฒนธรรมและวิถีชีวิต เผยผลงานที่ชนะการประกวดจะถูกนำไปผลิตใช้งานจริง



อาจารย์ชัยวัฒนภัทร เลาสัตย์ อาจารย์ประจำหลักสูตรการออกแบบ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากชุมชน ต.หัวเขา อ.สิงหนคร จ.สงขลา ได้ทำงานร่วมกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ภายใต้ชื่อ “วิสาหกิจชุมชนการท่องเที่ยว Ecotourism Songkhla Thailand” โดยได้รับการสนับสนุนจากภาคีเครือข่ายต่างๆ วัตถุประสงค์เพื่อสร้างงานสร้างอาชีพให้กับคนในชุมชนและพัฒนาการท่องเที่ยวของชุมชนอย่างยั่งยืน ดังนั้น เพื่อเป็นการโปรโมทแหล่งท่องเที่ยวของ ต.หัวเขา ให้เป็นที่รู้จัก ทางวิสาหกิจชุมชน Ecotourism Songkhla Thailand จึงดำเนินโครงการร่วมกับ 3 มหาวิทยาลัยเครือข่าย ได้แก่ มรภ.สงขลา มหาวิทยาลัยทักษิณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย (มทร.) และ ร้าน Songkhla Station สถานีความสุข สถานีสร้างสรรค์ จัดการประกวดชุดยูนิฟอร์มแกนนำการท่องเที่ยวชุมชนตำบลหัวเขา ภายใต้แนวคิดความงดงามของวัฒนธรรมและวิถีชีวิตชาวชุมชนตำบลหัวเขา


                อาจารย์ชัยวัฒนภัทร กล่าวว่า ตนขอเชิญชวนนักศึกษาและผู้สนใจร่วมส่งผลงานออกแบบเข้าประกวด โดยส่งผลงานเป็น sketch design ขนาด A3 พร้อมอธิบายแนวความคิดและชุดต้นแบบที่สามารถสวมใส่ได้จริง จำนวน 1 ชุด โดยมีกติกา ดังนี้ 1. ออกแบบชุดยูนิฟอร์มบ้านหัวเขา ขนาด A3 ไม่จำกัดเทคนิค ระบุชื่อ แรงบันดาลใจ แนวความคิดหรือความหมายของชุดที่ออกแบบ พร้อมชื่อ-นามสกุล เบอร์ติดต่อเจ้าของผลงาน 2. ชุดที่ออกแบบสามารถตัดเย็บได้จริง 3. มีตัวอย่างหรือต้นแบบที่สามารถสวมใส่ได้จริง (ทางผู้จักการประกวดจะจัดชาวบ้านในท้องถิ่นมาเดินแบบในวันตัดสิน วันที่ 6 ตุลาคม 2562) 4. ส่งผลงานได้ถึงวันที่ 3 ตุลาคม 2562 และ 5. ตัดสินผลงานวันที่ 6 ตุลาคม 2562 การตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นอันสิ้นสุด



                ในส่วนของรางวัล มีดังนี้ รางวัลชนะเลิศ รับเงินรางวัล 6,000 บาท พร้อมเกียรติบัตรและของสมนาคุณ รางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง เงินรางวัล 3,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร และรางวัลรองชนะเลิศอันดับสอง เงินรางวัล 2,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร โดยผลงานที่ชนะการประกวดจะถูกนำไปผลิตจริง เพื่อใช้เป็นชุดยูนิฟอร์มของแกนนำการท่องเที่ยวของชุมชนตำบลหัวเขาต่อไป

                สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อาจารย์ชัยวัฒนภัทร เลาสัตย์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มรภ.สงขลา โทร. 0875174478
22
วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ร่วมกับ ฮอร์ริซอน ออโต้เปิดโชว์รูมสไตล์สแกนดิเนเวียนขนานแท้กลางเมืองหาดใหญ่พร้อมรุกธุรกิจรถยนต์ระดับหรูสู่ภาคใต้เต็มรูปแบบ


วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย รุกขยายธุกิจในตลาดเมืองไทยอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดจับมือกับ ฮอร์ริซอน ออโต้ เปิดโชว์รูมแห่งใหม่ในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพื่อนำเสนอประสบการณ์โชว์รูมระดับหรูสไตล์สแกนดิเนเวียนขนานแท้สู่ผู้บริโภคในภาคใต้ ด้วยการออกแบบในแนวคิด “Volvo Retail Experience” ซึ่งให้ความสำคัญกับความพึงพอใจของลูกค้าเป็นอันดับแรก ผ่านการต้อนรับที่อบอุ่นในแบบสวีดิชที่เพียบพร้อมด้วยความสะดวกสบายและความโปร่งใส ภายใต้บรรยากาศการตกแต่งที่พิถีพิถันแบบนอร์ดิกและมอบรื่นรมย์ภายใต้แนวคิด “Cool on the outside, warm on the inside”



บริษัท ฮอร์ริซอน ออโต้ จำกัด ตั้งอยู่บนถนนลพบุรีราเมศวร์ในอำเภอหาดใหญ่ บริหารงานโดยนายธวัชชัย ตรีสุขเกษม อุปนายกสมาคมการค้าธุรกิจยานยนต์จังหวัดสงขลา เจ้าของรางวัลยอดขายดีเด่นหลายรางวัล และยังมีผลงานยอดจำหน่ายรถยนต์เอสยูวีสูงสุดในภาคใต้ของประเทศไทย (พ.ศ. 2560) นายธวัชชัยได้นำประสบการณ์อันช่ำชองในการจัดจำหน่ายรถยนต์วอลโว่มาสู่พันธมิตรคู้ค้า โดยกล่าวว่า “ในฐานะผู้ริเริ่มธุรกิจอย่างกระตือรือร้นด้วยตนเอง ผมจึงมีความมุ่งมั่นในการสร้างความเติบโตแก่ธุรกิจและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ทำงานร่วมกับ วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย และทีมงาน ด้วยองค์ความรู้เชิงลึกในตลาดรถเอสยูวี ผมจะพยายามนำเสนอข้อมูลแก่ผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ต้องการสัมผัสดีไซน์สแกนดิเนเวียนที่หรูหราในแบบสวีดิช รวมถึงเทคโนโลยียานยนต์อัจฉริยะจากแบรนด์วอลโว่อย่างดีที่สุด”



วอลโว่เน้นย้ำอยู่เสมอว่าประสบการณ์ที่ลูกค้าได้รับจากโชว์รูมวอลโว่ทุกแห่ง ไม่เพียงสะท้อนถึงความเป็นแบรนด์วอลโว่เท่านั้น แต่ยังถือเป็นมรดกในแบบฉบับสแกนดิเนเวียนที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานของวอลโว่อีกด้วย ซึ่งหนึ่งในความแตกต่างของการออกแบบโชว์รูมรุ่นใหม่ของวอลโว่คือความสะดวกสบายที่เหนือกว่า โดยลูกค้าสามารถนำรถยนต์มาจอดด้านหน้าอาคารและเดินเข้าสู่ภายในได้ทันที ผ่านประตูทางเข้าที่ตกแต่งด้วยไม้ซึ่งสื่อถึงสไตล์สแกนดิเนเวียนขนานแท้และกรุด้วยกระจกฝ้า โดยเมื่อเข้าสู่ภายใน ลูกค้าจะสัมผัสถึงประสบการณ์ใหม่จากบรรยากาศการตกแต่งที่โปร่งสบายคล้ายกับห้องนั่งเล่น สามารถนั่งผ่อนคลายบนเฟอร์นิเจอร์สไตล์สแกนดิเนเวียน พร้อมบริการสัญญาณ Wi-Fi และเครื่องดื่มชากาแฟ และด้วยการตกแต่งพื้นที่ส่วนใหญ่ด้วยกระจกใสจึงทำให้ลูกค้าสามารถมองเห็นการทำงานอย่างเอาใจใส่ของช่างเทคนิคในส่วนเวิร์กช็อประหว่างทำการซ่อมบำรุงรถยนต์ได้ในทุกขั้นตอน จึงกล่าวได้ว่า วอลโว่มอบประสบการณ์โชว์รูมที่อบอุ่นและดีเยี่ยมกว่าแบรนด์รถยนต์เยอรมันอื่น ๆ ในตลาดเมืองไทยได้อย่างโดดเด่น


มร.คริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “โชว์รูมแห่งใหม่ล่าสุดของวอลโว่ในหาดใหญ่ คืออีกหนึ่งตัวอย่างของการนำเสนอประสบการณ์ยานยนต์ที่ดีที่สุดสู่ผู้บริโภคในเมืองไทย นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2017 วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย พยายามปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินธุรกิจของเรา โดยให้ความสำคัญกับประสบการณ์ผู้บริโภคชั้นเลิศเป็นอันดับแรก ศูนย์จำหน่ายแห่งใหม่โดยความร่วมมือกับ ฮอร์ริซอน ออโต้ ถือเป็นการนำเสนอแนวคิด Volvo Retail Experience (VRE) ของเราอย่างชัดเจนและสมบูรณ์แบบ เพื่อมอบบรรยากาศของโชว์รูมที่โปร่งสบายแก่ลูกค้า ทำให้พวกเขามองเห็นการทำงานทั้งหมดและสัมผัสได้ถึงบรรยากาศการต้อนรับที่อบอุ่นในแบบสวีดิชขนานแท้ ซึ่ง ฮอร์ริซอน ออโต้ มีความมุ่งมั่นในการนำเสนอบริการที่ดีที่สุดในคลาสและประสบการณ์ผู้บริโภคที่เหนือกว่าความคาดหมายเฉกเช่น วอลโว่ คาร์ และแม้ในปัจจุบัน ผู้บริโภคจะมีทางเลือกอื่น ๆ มากมาย แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงมีความสำคัญมาโดยตลอดก็คือการมอบประสบการณ์ผู้บริโภคที่ดีเยี่ยมนั่นเอง และที่ผ่านมา เราเห็นแล้วว่าแนวคิดนี้ประสบผลสำเร็จ เนื่องจากเราสามารถสร้างอัตราการเติบโตในประเทศไทยได้กว่า 95% จนถึงในปีนี้ ซึ่งถือเป็นการันตีถึงความมั่นใจจากกลุ่มลูกค้าของเรา อีกทั้งเรายังมีผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมเพื่อตอบสนองผู้บริโภคทุกกลุ่ม ซึ่งโดดเด่นด้วยงานออกแบบและเทคโนโลยีสไตล์สแกนดิเนเวียนที่ดีที่สุดในคลาส และสามารถปกป้องผู้คนทั้งภายในรถยนต์ของเราและผู้ใช้รถใช้ถนนภายนอก โดย วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย และ ฮอร์ริซอน ออโต้ ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในทุกด้านเพื่อการนำเสนอโชว์รูมแห่งใหม่ที่ล้ำสมัยนี้ และยังร่วมกันพัฒนาแผนธุรกิจระยะยาว เพื่อรับประกันว่าเราจะมอบประสบการณ์ผู้บริโภคชั้นเลิศที่เปี่ยมด้วยคุณภาพต่อไป ซึ่งเรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่จะได้ให้บริการแก่ลูกค้าในภาคใต้ ด้วยเทคโนโลยีและเครื่องมือที่ทันสมัยใหม่ล่าสุด บนมาตรฐานเดียวกับที่ลูกค้าจะได้รับจากวอลโว่สำนักงานใหญ่ เราจะร่วมมือกันนำเสนออิสรภาพแห่งการเดินทาง บนแนวทางที่ปลอดภัย เปี่ยมด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวและความยั่งยืนแก่ลูกค้าในภาคใต้อย่างต่อเนื่อง”











23
มรภ.สงขลา ผนึกเครือข่ายทางวัฒนธรรม-สถาบันการศึกษาจัดงานสืบศาสตร์ สานศิลป์ฯ ศิลปินแห่งชาติสัญจร

 

            มรภ.สงขลา จับมือกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ม.ทักษิณ มทร.ศรีวิชัย ร.ร.มหาวชิราวุธ จัดงานสืบศาสตร์ สานศิลป์ฯ : ศิลปินแห่งชาติสัญจร 2562 น้อมสำนึกพระมหากรุณาธิคุณ ร.10 ในฐานะทรงเป็นอัครศิลปิน 


            อาจารย์โอภาส อิสโม ผู้อำนวยการสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) เปิดเผยว่า สำนักศิลปะและวัฒนธรรม ร่วมกับกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยทักษิณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย และ โรงเรียนมหาวชิราวุธ จัดงานสืบศาสตร์ สานศิลป์ ศิลปินแห่งชาติ : ศิลปินแห่งชาติสัญจร 2562 ระหว่างวันที่ 1-2 กันยายน ที่ผ่านมา ณ โรงเรียนมหาวชิราวุธ จ.สงขลา วัตถุประสงค์เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในฐานะทรงเป็นอัครศิลปิน และเพื่อให้ประชาชนเจริญรอยตามพระยุคลบาท สืบสานพระราชปณิธานการอนุรักษ์ สืบสาน มรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติ ทั้งยังเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพิ่มพูนทักษะและความคิดสร้างสรรค์ด้านศิลปะให้แก่อาจารย์ นักศึกษา เยาวชนและประชาชนทั่วไป โดยตนได้เข้าร่วมพิธีเปิดและรับมอบของที่ระลึกจาก นายกฤษศญพงษ์ ศิริ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม



                อาจารย์โอภาส กล่าวว่า มรภ.สงขลา ได้แต่งตั้งคณาจารย์ของทางมหาวิทยาลัยทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยวิทยากรศิลปินแห่งชาติ ได้แก่ อาจารย์ ดร.กมลทิพย์ กาลทิพย์ อาจารย์ชนางลักษณ์ ขุนทอง และ อาจารย์ตถาตา สมพงศ์ ผู้ช่วยวิทยากรประจำฐานการสร้างสรรค์เรื่องสั้น อาจารย์ ดร.เกรียงศักดิ์ รักษาเดช และ อาจารย์วารี แสงสุวอ ผู้ช่วยวิทยากรประจำฐานเทคนิคภาพพิมพ์ อาจารย์จุฑารัตน์ บุตรเผียน ผู้ช่วยวิทยากรประจำฐานเทคนิคประติมากรรม ผศ.ดร.จรรย์สมร ผลบุญ และ ผศ.ดร.กฤติยา ชูสงค์ ผู้ช่วยวิทยากรประจำฐานการสร้างสรรค์ศิลปะการแสดง (นาฏศิลป์) และ อาจารย์กมลนาวิน อินทนูจิตร ผู้ช่วยวิทยากรประจำฐานเทคนิคสถาปัตยกรรม พร้อมทั้งส่งนักศึกษาเข้าร่วมในฐานกิจกรรมกว่า 80 คน


ด้าน อาจารย์กมลนาวิน อินทนูจิตร รองผู้อำนวยการฝ่ายยุทธศาสตร์ศึกษาค้นคว้าวิจัยข้อมูลองค์ความรู้และอนุรักษ์ศิลปะและวัฒนธรรม สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มรภ.สงขลา ผู้เสนอโครงการ กล่าวว่า เป็นมงคลชีวิตอย่างยิ่งที่ตนมีโอกาสเป็นผู้ช่วยวิทยากรศิลปินแห่งชาติ อาจารย์วนิดา พึ่งสุนทร ซึ่งเป็นปรมาจารย์ด้านสถาปัตยกรรมที่ออกแบบงานไว้ให้แผ่นดินมากมาย ศิลปินแห่งชาติคือครูของแผ่นดิน เป็นพลังใจที่เติมเต็มแก่เยาวชน และเป็นแบบอย่างสูงสุดของวิชาชีพ ตนรู้สึกเป็นเกียรติได้มีโอกาสเป็นผู้ช่วยของท่านทำให้สามารถนำมาปรับการบริหารศิลป์ เพราะมากกว่าความเข้าใจว่าศิลปะคืออะไร คือความซาบซึ้งในศาสตร์ ศิลป์ สืบสาน นั้น



อาจารย์กมลนาวิน กล่าวอีกว่า สำนักศิลปะและวัฒนธรรมได้กำหนดยุทธศาสตร์การดำเนินงานในการอนุรักษ์ สืบสาน ฟื้นฟู ปกป้อง พัฒนาและเผยแพร่ด้านศิลปวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมศิลปกรรมอย่างยั่งยืนตามศาสตร์พระราชา และได้กำหนดกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ โดยส่งเสริมและสร้างความภาคภูมิใจในการอนุรักษ์และเผยแพร่ศิลปะและวัฒนธรรมให้กับนักศึกษา บุคลากร ประชาชนทั่วไป เช่น โครงการตามประเพณีต่างๆ การพัฒนาฐานข้อมูลศิลปวัฒนธรรม ผลิตสื่อเพื่อเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม และการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาผสมผสานการดำรงไว้ซึ่งวัฒนธรรมต่าง ๆ อีกทั้ง มรภ.สงขลา เป็นมหาวิทยาลัยที่ตั้งอยู่ในภาคใต้และอยู่ในชุมชนที่มีศิลปะ ประเพณี วัฒนธรรม วิถีการดำรงชีวิตแบบพื้นบ้าน และขนบธรรมเนียมที่ดีงามหลากหลายควรค่าแก่การอนุรักษ์ ฟื้นฟู ปกป้อง และเผยแพร่ศิลปะและวัฒนธรรมที่ดีงามให้คงอยู่อย่างยั่งยืน


อาจารย์ชนางลักษณ์ ขุนทอง กล่าวถึงความประทับใจต่องานดังกล่าวว่า ตนมีโอกาสได้พบกับศิลปินแห่งชาติที่มารวมตัวกันอย่างใกล้ชิด ทำให้รู้สึกกลับไปเป็นนักเรียนหรือนักศึกษาตัวเล็กๆ ที่ครูก้มมองเราด้วยประกายตาที่เมตตา เพราะสำหรับตนแล้วทุกท่านเหล่านี้เป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ เป็นปรมาจารย์ในด้านต่างๆ ที่เดินทางสัญจรมาหา จึงรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับและภาคภูมิใจ ดีใจแทนเด็กๆ ชาวสงขลา ที่ได้รับการถ่ายทอดความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจเพื่อสร้างสรรค์ผลงานจากครูของแผ่นดิน


ปิดท้ายด้วย อาจารย์ ดร.กมลทิพย์ กาลพันธ์ กล่าวว่า จุดประสงค์หลักของการได้พบปะศิลปินแห่งชาติในครั้งนี้ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจ จุดประกายความคิด ความกล้าในเรื่องที่เขียน อีกทั้งได้เห็นแบบอย่างของคนที่ประสบความสำเร็จจากการเขียน งานครั้งนี้จึงทรงคุณค่าต่อความรู้สึกและการเป็นครูจากต้นแบบของศิลปินแห่งชาติ ซึ่งในส่วนของศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ เป็นบรรยากาศของการจุดประกายผู้ที่สนใจการสร้างสรรค์งานเขียนประเภทเรื่องสั้นและบทกวี ซึ่งนักเรียน นักศึกษาให้ความสนใจในการสร้างงานจากประสบการณ์ของศิลปิน ผูกโยงกับทัศนคติที่มีต่อสังคมและถ่ายทอดความรู้สึกผ่านศิลปะการใช้ภาษา ซึ่งนักเรียนหลายคนเรียนรู้เรื่องราวเหล่านี้จนเกิดประกายสามารถสร้างสรรค์งานหลายๆ ชิ้นให้ศิลปินได้วิพากษ์วิจารณ์ เพื่อเป็นต้นแบบในการสร้างงานต่อไป



24
CAT ร่วมส่งมอบ “น้ำดื่ม CAT” และ “ถุงน้ำใจ CAT ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย” ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ


               วันที่ 5 กันยายน 2562 พันเอก สรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และพนักงาน “CAT จิตอาสา” ร่วมแรงร่วมใจกันบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการยังชีพใส่ “ถุงน้ำใจ CAT” จำนวน 500 ถุง ส่งมอบพร้อม “น้ำดื่ม CAT” เพื่อนำเข้าพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจากพายุโซนร้อนฯ ต่อไป ณ ชั้น 1 อาคารสโมสร สำนักงานใหญ่ CAT หลักสี่ กรุงเทพฯ


ทั้งนี้ CAT มีความห่วงใยต่อผู้ประสบอุทกภัยและผู้ใช้บริการเป็นอย่างยิ่ง โดยเมื่อเกิดสถานการณ์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ CAT ส่วนภูมิภาคได้ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือและเฝ้าระวังระบบโครงข่ายสื่อสารโทรคมนาคมโดยทันที พร้อมทั้งเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้ขาดการติดต่อสื่อสาร CAT ขอส่งความห่วยใยและขอให้ทุกคนก้าวผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยความปลอดภัย


นอกจากนี้ สำนักงาน กสทช.ยังได้ร่วมกับCAT พร้อมเยียวยาผู้ใช้บริการ "my by CAT" ที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ประสบอุทกภัย 10 จังหวัดภาคอีสาน ได้แก่อุดรธานี กาฬสินธุ์ มุกดาหาร นครพนม อำนาจเจริญยโสธร สกลนคร ร้อยเอ็ด ขอนแก่น และอุบลราชธานี โดยผู้ใช้บริการแบบรายเดือน ขยายเวลาชำระค่าบริการให้จนถึงวันที่ 8 กันยายน 2562 สำหรับผู้ใช้บริหารเติมงินเพิ่มวันใช้งานฟรี 7 วัน (ลูกค้าในพื้นที่ได้รับสิทธิ์โดยไม่ต้องกดสมัคร)







25
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ร่วมกับ ศอ.บต.  จัดกิจกรรม “Southernmost Technology and Innovation Festival” สร้างการรับรู้แก่ ประชาชน จชต. เพื่อนำนวัตกรรมมาใช้เป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับประเทศ


               วันที่ 4 กันยายน 2562 เวลา 10.00 น. ที่ โรงแรมเซาท์เทิร์นวิว ปัตตานี นายปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเป็นประธานเปิดกิจกรรม “Southernmost Technology and Innovation Festival” ครั้งที่ 2 โดยมี นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายอิสระ ละอองสกุล  ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. นายวิเชียร สุขสร้อย รองผู้อำนวยการด้านเศรษฐกิจและสังคม สำนักนวัตกรรมแห่งชาติ นักธุรกิจ ผู้ประกอบการในพื้นที่  พร้อมนิสิต นักศึกษา เข้าร่วม


สำหรับกิจกรรม “Southernmost Technology and Innovation Festival” ครั้งที่ 2 สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัย และนวัตกรรม  ได้ร่วมกับ ศูนย์อำนวยการบริหารชายแดนใต้ (ศอ.บต.)  จัดขึ้นโดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นการสร้างการรับรู้และตระหนักถึงความสำคัญของธุรกิจนวัตกรรมให้แก่ ประชาชนภายในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ และกระตุ้นให้นิสิต นักศึกษา นักวิชาการ ผู้ประกอบการธุรกิจนวัตกรรมและ ประชาชนในพื้นที่ ได้รับรู้และตระหนักถึงความสำคัญในการนำนวัตกรรมมาใช้เป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งในระดับภูมิภาคและระดับประเทศ โดยจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 4 - 5 กันยายน 2562  ซึ่งในการดำเนินกิจกรรมดังกล่าวได้รับความสนใจจาก คณาจารย์ ผู้เชี่ยวชาญ นิสิต นักศึกษา ผู้ประกอบการ และประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้จำนวน มากกว่า 500 คน เข้าร่วม


นายปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เปิดเผยว่า ทางปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึง ศอ.บต. เห็นความสำคัญของการที่จะต้องนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาช่วยในการผลักดัน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม ให้เจริญก้าวหน้า พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพื้นที่ที่ทางกระทรวงให้ความสำคัญ ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมจะเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่จะช่วยเศรษฐกิจของจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงได้จัดกิจกรรมงานแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นกิจกรรมต่อเนื่องที่ให้ความสำคัญในการพัฒนาผู้ประกอบการทั้งในแง่การให้ความรู้ การชี้ช่องทางการตลาด การสนับสนุนด้านเงินทุน รวมถึงเป็นพี่เลี้ยงให้เติบโตไปจนสามารถเป็นผู้ประกอบการตั้งต้นและขยายธุรกิจต่อไป เชื่อมั่นว่านวัตกรรมจะเป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนได้เป็นอย่างดี


ด้าน นายอิสระ ละอองสกุล  ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต.  กล่าวว่า กิจกรรมในวันนี้เป้าหมายหลักคือเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทั้งผู้ประกอบการ ภาคการท่องเที่ยว ภาคเกษตร ซึ่งเชื่อมั่นว่า การได้ร่วมมือกับทางสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ จะนำไปสู่การเพิ่มมูลค่าทางการผลิต ทั้งในเรื่องของการท่องเที่ยว เกษตร ประมง อย่างครบวงจร โดย ศอ.บต. พร้อมจะจับมือกับทาง สนช. และหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อเดินหน้าดำเนินการให้บรรลุตามเป้าที่ได้วางไว้ต่อไป


ทั้งนี้ ภายในงานมีการแสดงนิทรรศการด้านนวัตกรรมและงานสัมมนาด้านวิชาการที่สอดคล้องสำหรับการประยุกต์นวัตกรรม เพื่อปรับใช้ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ภายใต้แนวคิด “Groom Grant Growth” รวมทั้งมีกิจกรรมการบรรยาย การเสวนา และการสัมมนาด้านวิชาการต่าง ๆ อาทิ การแนะนำกลไกการสนับสนุนของหน่วยงานภาครัฐ มีการบรรยายด้านนวัตกรรมจากผู้ทรงคุณวุฒิ และกิจกรรมแสดงนิทรรศการของผู้ประกอบการ SMEs และ Startup ที่ดำเนินธุรกิจนวัตกรรม 10 ราย กิจกรรม Workshop สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจนวัตกรรม นิทรรศการของหน่วยงาน ศอ.บต. และนิทรรศการของหน่วยงานต่าง ๆ จำนวนกว่า 30 หน่วยงาน


26
PFP  เข้ารับเกียรติบัตรผู้ทำคุณประโยชน์แก่วิทยาลัยประมงติณสูลานนท์


บริษัท แปซิฟิคแปรรูปสัตว์น้ำ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารทะเลแปรรูป ภายใต้แบรนด์ PFP เข้ารับเกียรติบัตรผู้ทำคุณประโยชน์แก่วิทยาลัยฯ ในโครงการเปิดโลกอาชีพ เปิดรั้วอาชีวศึกษา พรานทะเลวิชาการ ประจำปีการศึกษา 2562 ทั้งนี้ พีเอฟพี ได้ร่วมออกบูธ จัดชิมผลิตภัณฑ์ แก่ นักเรียนและผู้เข้าร่วมงาน ณ หอประชุมวิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ เมื่อ วันที่ 29 สิงหาคม2562

27
รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานหาดใหญ่ ให้การต้อนรับ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (กอญ.) ในโครงการ “กอญ. พบพนักงาน” เพื่อมอบนโยบาย การดำเนินงานด้านต่างๆ ของ ทอท.


              วันที่ 5 กันยายน 2562นายชูวิทย์ พันธุ์เณร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ด้านสนับสนุนธุรกิจ) ผู้แทน ผู้อำนวยการท่าอากาศยานหาดใหญ่ ให้การต้อนรับ นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (กอญ.) ในโครงการ “กอญ. พบพนักงาน” เพื่อมอบนโยบาย การดำเนินงานด้านต่างๆ ของ ทอท. ตลอดจนรับทราบปัญหาข้อขัดข้องในการปฏิบัติงานจากพนักงาน


               อีกทั้งยังเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้เกิดกับพนักงาน รวมทั้งยังเป็นการสื่อสารสองทางระหว่างผู้บริหารระดับสูงและผู้ปฏิบัติงานให้เกิดประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยมี ผู้บริหาร พนักงาน และลูกจ้างท่าอากาศยานหาดใหญ่ เข้าร่วมฯ ณ ห้องประชุมอาคารสำนักงานท่าอากาศยานหาดใหญ่




28
นศ.เทคโนโลยีอุตสาหกรรม มรภ.สงขลา โชว์ผลงานเวทีประชุมเครือข่ายราชภัฏใต้คว้า 3 รางวัลงานวิจัยพัฒนาท้องถิ่น


            นักศึกษาเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มรภ.สงขลา นำเสนอผลงานวิจัยแก้ปัญหาและพัฒนาท้องถิ่น คว้า 3 รางวัลเวทีประชุมวิชาการเครือข่ายคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏภาคใต้ ครั้งที่ 1 



                ผศ.ดร.วีระชัย แสงฉาย คณบดีคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ นักศึกษาของทางคณะฯ ร่วมนำเสนอผลงานวิจัยในงานประชุมวิชาการเครือข่ายคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏภาคใต้ ครั้งที่ 1 “วิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นตามพระบรมราโชบาย” ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ผลปรากฏว่างานวิจัยเรื่อง ตัวแบบการพยากรณ์ปริมาณการส่งออกไม้ยางพาราแปรรูปเหมาะสม กรณีศึกษา โรงงานแปรรูปไม้ยางพารา XYZ จังหวัดสุราษฎร์ธานี จัดทำโดย นายธนยศ แสงทอง ที่มี ผศ.ธนะรัตน์ รัตนกูล เป็นที่ปรึกษา ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 บทความวิจัยดีเด่น แบบรรยาย รับเงินรางวัล 1,000 บาท พร้อมประกาศนียบัตรเชิดชูเกียรติ


นอกจากนั้น นักศึกษาคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มรภ.สงขลา ยังได้รับรางวัลชมเชย จากงานวิจัยเรื่อง การประยุกต์ใช้กระบวนการวิเคราะห์เชิงลำดับชั้นในการคัดเลือกวัตถุดิบเพื่อผลิตผ้าทอเกาะยอ กรณีศึกษา กลุ่มแม่บ้านผ้าทอเกาะยอ จังหวัดสงขลา จัดทำโดย น.ส.ศศิมา อาแซ โดยมี ผศ.กันต์ธมน สุขกระจ่าง เป็นที่ปรึกษา และอีกหนึ่งรางวัลชมเชยจากงานวิจัยเรื่อง การจัดการขยะมูลฝอย กรณีศึกษา ตำบลโคกม่วง อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา จัดทำโดยนายเจษฎา หีมล๊ะ และ นายอนันดา สกุลา โดยมี ผศ.คุลยา เป็นที่ปรึกษา    


สำหรับงานวิจัยเรื่อง ตัวแบบการพยากรณ์ปริมาณการส่งออกไม้ยางพาราแปรรูปเหมาะสมฯ ที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 ผู้วิจัยจัดทำขึ้นเนื่องจากเล็งเห็นว่า จากสถิติพื้นที่ปลูกยางพาราของประเทศไทยในปี 2560 จ.สุราษฎร์ธานี มีพื้นที่ปลูกยางพารากว่า 3 ล้านไร่ ซึ่งมากเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ และมีไม้ยางพาราเป็นวัตถุดิบสำคัญในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ โดยมีโรงงานแปรรูปไม้ยางพารามากถึง 76 แห่ง ซึ่งในกระบวนการผลิตสินค้าจากไม้ยางพารา ขั้นตอนแรกที่สำคัญคือ การเลื่อยแปรรูปไม้ยางพาราจากไม้ท่อนเป็นไม้แปรรูปขนาดเท่าที่ต้องการจะนำไปใช้งาน แต่ลักษณะพิเศษของไม้ยางพาราที่ต้องรีบแปรรูปและอาบน้ำยา เนื่องจากอาจถูกมอดและเชื้อราเข้าทำลายอย่างรวดเร็วหลังการตัดฟัน ทำให้กระบวนการในการผลิตมีผลต่ออุตสาหกรรมเครื่องเรือนเครื่องใช้ ดังนั้น การพัฒนากระบวนการผลิตของอุตสาหกรรมแปรรูปไม้ยางพาราให้มีประสิทธิภาพ จะทำให้ผลผลิตไม้แปรรูปจากไม้ยางพารามีคุณภาพมากขึ้น ส่งผลถึงอุตสาหกรรมที่ใช้ไม้ยางพาราเป็นวัตถุดิบ


ทั้งนี้ ปัจจุบันผู้ประกอบการจีนนิยมใช้ไม้ยางพาราจากไทยในการผลิตสินค้าเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสินค้าเฟอร์นิเจอร์ซึ่งมีแนวโน้มการนำเข้าไม้ยางพาราจากประเทศไทยเติบโตต่อเนื่อง ด้านสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศซึ่งมีจำนวนสมาชิกกว่า 100 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 70 ของจำนวนบริษัทผู้นำเข้าไม้ยางพาราทั้งหมดในประเทศจีน พบว่าบริษัทผู้นำเข้าไม้เหล่านี้มีการใช้ไม้ยางพาราประมาณ 2 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อวัน จากความต้องการดังกล่าวผู้วิจัยจึงเล็งเห็นถึงความสำคัญของการพยากรณ์ยอดการผลิตไม้ยางพาราแปรรูป เพื่อวางแผนส่งมอบไม้ยางพาราแปรรูปให้เพียงพอต่อความต้องการในตลาดต่างประเทศ





29
เลขาธิการ ศอ.บต. เปิดงาน ชวนชิมแตงโมตำบลพ่อมิ่ง จังหวัดปัตตานี ให้การันตีด้วยคุณภาพที่สด หวาน กรอบ อร่อย จากผลผลิตของชาวบ้านโดยปลูกแบบธรรมชาติ พร้อมผลัดดันพื้นที่แห่งนี้ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแบบวิถีชุมชนที่ดีที่สุดของปลายด้ามขวาน


วันที่ 4 กันยายน  2562  เวลา  10.30 น. ที่ บริเวณหน้าวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแปรรูปหญ้าเนเปียร์  (ปากช่อง) หมู่ 3 ตำบลพ่อมิ่ง อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี พลเรือตรี สมเกียรติ  ผลประยูร  เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นประธานเปิดงาน “ชวนชิม แตงโม ตำบลพ่อมิ่ง” จัดโดยกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแปรรูปหญ้าเนเปียร์ ร่วมกับอำเภอปะนาเระ เทศบาลตำบลพ่อมิ่ง จัดขึ้น เพื่อเป็นการส่งเสริมการตลาดและประชาสัมพันธ์ให้ผลผลิตแตงโมของอำเภอปะนาเระ เป็นที่รู้จักกันแพร่หลาย และให้เกษตรกรมีการเรียนรู้และเพิ่มทักษะในปลูกแตงโมที่ปลอดภัยจากสารพิษจนถึงการเก็บเกี่ยวผลผลิต และส่งเสริมอาชีพการปลูกแตงโม สร้างรายได้ที่ดีแก่เกษตรกรในพื้นที่ตำบลพ่อมิ่ง และตำบลน้ำบ่อ อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี จึงได้จัดงานชวนชิมแตงโมตำบลพ่อมิ่งขึ้น โดยครั้งนี้มีนายวิภาค ภู่เพชร นายอำเภอปะนาเระ หัวหน้าส่วนราชการ ตลอดจนประชาชนทั้งในและนอกพื้นที่เข้าร่วมจำนวนมาก


ในการนี้ พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร  เลขาธิการ ศอ.บต. ได้กล่าวในพิธีเปิดในครั้งนี้ว่า ขอขอบคุณหัวหน้าส่วนราชการ ตลอดจนพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ที่ร่วมกันจัดกิจกรรมในครั้งนี้ขึ้นมา เพราะอำเภอปะนาเระแบ่งการปกครองเป็น 10 ตำบล 53 หมู่บ้าน ที่สำคัญมีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงาม ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม มีวิถีชีวิตแบบเรียบง่ายภายใต้พหุวัฒนธรรมที่สวยงาม และในอนาคตอยากเห็นพื้นที่ตำบลพ่อมิ่งแห่งนี้เป็นพื้นที่ที่แต่ผู้คนมีความสุข เพราะตำบลพ่อมิ่งมีแต่สิ่งดี ๆ มากมายโดยเฉพาะ ทะเล อาหาร มีคุณภาพที่สุด ที่ผ่านมามีนักธุรกิจมาดูงานในหลาย ๆ ด้านจนได้มาเห็นว่า น้ำบูดู ของอำเภอปะนาเระนั้นเป็นบูดูที่อร่อย และมีคุณภาพมากที่สุด เพราะแหล่งน้ำทะเลบริเวณแห่งนี้จะไม่เหมือนพื้นที่อื่น ๆ จนทำให้ปลาเล็ก ๆ น้อย ๆ มีความสด อร่อย


เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวอีกว่า อดีตพื้นที่แห่งนี้ มีแต่พืชผักเท่านั้น แต่ปัจจุบันชาวบ้านได้มาทำการปลูกแตงโม ซึ่งเป็นผลผลิตที่มีคุณภาพมากที่สุด ในอนาคตแตงโมสามารแปรรูปให้เป็นผลผลิตทางอาหารได้ถึง 25 ชนิด หรือมากกว่านั้นก็เป็นไปได้ และที่สำคัญพื้นที่แห่งนี้ชาวบ้านได้รวมกลุ่มปลูกแตงโมแบบตามธรรมชาติ โดยไม่พึ่งสารเคมี ถือเป็นผลดีมากแก่ผู้บริโภค และในอนาคตพื้นที่แห่งนี้ต้องเป็นสถานที่แหล่งท้องเที่ยวแห่งใหม่ของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดย ศอ.บต. จะเร่งผลักดันให้สถานที่แห่งนี้เป็นที่รู้จักแก่ประชาชนทั้งในและนอกพื้นที่ให้ได้ โดยทุกคนที่ผ่านไปผ่านมาจะต้องแวะชม ชิม ช๊อป จากร้านของชุมชนที่จัดจำหน่ายสินค้า โดยชาวบ้านจะได้มีรายได้เสริมมากเพิ่มขึ้น และที่สำคัญมากที่สุดที่ ศอ.บต. ให้ความสำคัญแก่พื้นที่แห่งนี้มากนั้นคือ ที่นี่ นอกจากจะมีแตงโมที่อร่อยแล้ว ยังทีผลไม้อื่น ๆ ข้าว ผักต่าง ๆ และอาหารทะเลที่มีคุณภาพไม่แพ้พื้นที่ไหน ๆ ของประเทศไทย


สำหรับกิจกรรมในวันนี้ เลขาธิการ ศอ.บต. ได้เยี่ยมชมบู๊ธจากผลผลิตของแตงโมที่กลุ่มแม่บ้านในพื้นที่มาร่วมจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า และพบปะพูดคุยถึงวิธีการปลูกแตงโม แนวโน้มทางการตลาดแตงโม ซึ่งเป็นแตงโมพันธุ์ตอปิโด เป็นสายพันธุ์ที่ปลูกง่าย ได้ผลผลิตดี ตลาดนิยมมาก จากนั้นได้ผ่าแตงโม เพื่อแจกให้กับคนที่มาร่วมงานได้ชิม และนอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย อาทิ การแข่งขันกินแตงโม การประกวดการจัดทำอาหารจากแตงโม การแกะสลักจากแตงโม การแสดงสินค้าของดีแต่ละตำบลอีกด้วย







30
ทม.คอหงส์จัดอบรมความรู้การป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อนแก่บุคลากรในสังกัดและประชาชนในเขตเทศบาลฯ


วันอังคารที่ 3 กันยายน 2562  นายฉลอง พัฒโน รองนายกเทศมนตรีเมืองคอหงส์ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อน กิจกรรมที่ 3 การจัดฝึกอบรมความรู้เกี่ยวกับการป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อนแก่บุคลากรในสังกัดเทศบาลและประชาชนในเขตเทศบาล ณ โรงแรมต้นอ้อย แกรนด์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา







หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 10