วันศุกร์, 10 ตุลาคม 2568

กรณีเลขที่บ้าน นายกทุ่งลานย้ำเทศบาลฯไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมให้ตรวจสอบ

เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2568 ที่สำนักงานเทศบาลตำบลทุ่งลาน อ.คลองหอยโข่ง จ. สงขลา นายประสิทธิ์ แก้วมรกต นายกเทศมนตรีตำบลทุ่งลาน พร้อมเจ้าหน้าที่กลุ่มงานทะเบียน ออกมาชี้แจงต่อสาธารณชนต่อกรณีชาวบ้านหมู่ที่ 7 ตำบลทุ่งลาน ออกมาร้องเรียนว่า ถูกเรียกรับเงินจำนวน 2,000 บาท เพื่อแลกกับการออกเลขทะเบียนบ้านใหม่ (แบบ ทร.9) โดยเหตุการณ์ดังกล่าวมีการเผยแพร่บทสนทนาในกลุ่มไลน์หมู่บ้าน ซึ่งอ้างถึงชื่อผู้ใช้ “อรรถวิท” ระบุถึงการถูกเรียกรับเงินในการขอเอกสารดังกล่าว โดยยืนยันว่า เทศบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่มีนโยบายเรียกรับเงินจากประชาชนในการขอออกบ้านเลขที่

นายประสิทธิ์กล่าวว่า “ขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ของเทศบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ และการขอออกเลขที่บ้านเป็นบริการภาครัฐที่ไม่เสียค่าใช้จ่าย หากพบว่ามีบุคคลใดแอบอ้าง เราจะดำเนินการทางกฎหมายโดยเด็ดขาด”

ทั้งนี้ นายกเทศมนตรีฯ ยอมรับว่า ขณะนี้ทราบตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเรียกรับเงินแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดเพื่อให้หน่วยงานต้นสังกัดเป็นผู้สอบสวนข้อเท็จจริง พร้อมย้ำว่า เทศบาลพร้อมให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการตรวจสอบอย่างโปร่งใส

นายประสิทธิ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ในพื้นที่ตำบลทุ่งลาน ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม มักมีการช่วยเหลือกันในรูปแบบของการบริจาคหรือจ่ายซะกาตอยู่แล้ว แต่หากมีผู้ใดนำเรื่องดังกล่าวไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง เช่น การเรียกเก็บเงินโดยไม่มีสิทธิ์ ถือว่าไม่เหมาะสมและสมควรได้รับการตรวจสอบอย่างจริงจัง

“ผมอยากให้อำเภอเข้ามาดูแลเรื่องนี้อย่างจริงจัง ไม่ใช่เพียงเรียกมาพูดคุยแล้วจบ เพราะที่ผ่านมา หลายกรณีที่ชาวบ้านร้องเรียนก็มักจบลงโดยไม่มีการดำเนินการจริง” นายกเทศมนตรีทุ่งลานกล่าว พร้อมย้ำว่า พื้นที่ตำบลทุ่งลานเป็นชุมชนที่ดี มีผู้นำและประชาชนอยู่ร่วมกันอย่างสันติ แต่หากมีใครเอาเปรียบประชาชนก็ต้องแก้ไขอย่างตรงไปตรงมา

ด้านเจ้าหน้าที่งานทะเบียนเทศบาล ชี้แจงว่า ขั้นตอนการออกเลขที่บ้านแบบ ทร.9 เป็นกระบวนการที่กำหนดตามกฎหมายชัดเจน ประชาชนสามารถยื่นคำขอได้ฟรี และหากพบว่ามีการเรียกรับเงินจากบุคคลใดที่อ้างชื่อเทศบาล ถือเป็นการกระทำผิดกฎหมายและจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

ท้ายที่สุด นายประสิทธิ์ย้ำว่า เรื่องนี้ควรเป็นตัวอย่างของการบริหารงานท้องถิ่นที่โปร่งใส และยืนยันว่า หากพบการกระทำที่ไม่ถูกต้อง จะต้องมีการตรวจสอบและดำเนินการลงโทษตามความเหมาะสม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่