
ตามนโยบาย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี, นายภูมิธรรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และพันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้มีการปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง โดยให้ถือเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นแหล่งแพร่ระบาด เป็นจุดพักยาและเป็นเส้นทางลำเลียงไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน

วันนี้ (15 พฤษภาคม 2568) เวลา 16.00 น. ที่แหล่งสมาคมนายทหารสัญญาบัตร กองพลทหารราบที่ 15 ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมด้วย พลตำรวจโท ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 / ผู้บัญชาการกองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผนึกกำลังแถลงผลการปฏิบัติการจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยการจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นในวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 เหตุเกิดภายในบ้านเลขที่ 474 / 4 ถนนริมคลองชลประทาน หมู่ที่ 3 ตำบลควนลัง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พบของกลางเป็น ยาบ้าจำนวน 2,360,000 เม็ด, โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง โดยสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ 2 ราย ได้แก่ 1. นายเฉลิมวัฒน์ ชัยรัตน์ศิริกุล อายุ 24 ปี และ 2. นายณัฐวัฒน์ เถนว่อง อายุ 19 ปี ทั้งสองภูมิลำเนาเป็นชาวอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยมี นายวิรุฬห์ สิทธิวงศ์ รองอธิบดีกรมการปกครอง ฝ่ายความมั่นคง, นายนันทพงศ์ สุวรรณรัตน์ รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้, ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) ตลอดจนพี่น้องสื่อมวลชนร่วมการแถลงข่าว

โอกาสนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวว่า “กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ดำเนินการตามนโยบายสำคัญ 5 ด้าน ได้แก่ การควบคุมพื้นที่และป้องกันเหตุร้าย รวมถึงการบังคับใช้กฎหมาย, การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด, การส่งเสริมการอยู่ร่วมกันภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง, การเสริมสร้างความเข้าใจ และการบูรณาการความร่วมมือด้านความมั่นคงกับทุกภาคส่วนในพื้นที่ ในด้านการแก้ไขปัญหายาเสพติดนั้น กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้จัดตั้งคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ครอบคลุมทั้ง 5 จังหวัด โดยบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างฝ่ายทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 9 ซึ่งภารกิจหลักของการดำเนินงานด้านนี้ครอบคลุมทั้งการป้องกัน การปราบปราม การบำบัดรักษา และการฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด โดยได้รับการผลักดันอย่างเต็มที่จากรัฐบาล เนื่องจากถือเป็น วาระแห่งชาติ และในช่วงที่ผ่านมา พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานด้านนี้อย่างใกล้ชิด ถือเป็นการผลักดันนโยบายด้านการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้เกิดผลเป็นรูปธรรมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างต่อเนื่อง”

ด้าน พลตำรวจโท ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 / ผู้บัญชาการกองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยข้อมูลสำคัญสำหรับการจับกุมและปิดประตูส่งออกยาบ้าล็อตใหญ่ล็อตนี้ว่า “พฤติการณ์ในการจับกุมดังกล่าว กล่าวคือ กองกำกับการสอบสวนสืบสวน 2 กองบังคับการสอบสวนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ทหาร, เจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 9 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ทำการสืบสวนติดตามจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีพฤติการณ์ร่วมกันติดต่อกับนักค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือในการลักลอบลำเลียงยาเสพติดชนิดยาบ้า มาจำหน่ายในพื้นที่ภาคใต้ และส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการจับกุมและขยายผลทำลายเครือข่ายมาโดยตลอดอย่างต่อเนื่อง กระทั่งเมื่อเดือนมีนาคม 2568 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ร่วมกันจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่จังหวัดปัตตานี และพื้นที่จังหวัดสงขลา ได้พร้อมของกลางยาเสพติดจำนวนมาก หลังจากนั้นได้มีการขยายผลการจับกุม และสืบสวนทราบว่าเครือข่ายดังกล่าวได้ใช้พื้นที่ อำเภอหาดใหญ่ และพื้นที่อำเภอใกล้เคียงเป็นจุดพักยาเสพติด เพื่อรอกระจายให้กับเครือข่ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จังหวัดใกล้เคียงรวมทั้งเป็นการพักยาเสพติดเพื่อรอส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ต่อมาสืบสวนทราบว่าได้มีการเตรียมการที่จะลักลอบลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากจากพื้นที่ภาคกลางมาพักเก็บในพื้นที่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จึงได้ประชุมวางแผนในการสะกดรอย และติดตามพฤติการณ์ของบุคคลเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง กระทั่งทราบข้อมูลซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นสถานที่พักยาเสพติดของเครือข่ายดังกล่าว และในวันเกิดเหตุวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ร่วมกันสะกดรอยติดตาม และพบว่ามีการเดินทางเข้าออกหมู่บ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นสถานที่เป้าหมายจำนวนหลายครั้ง จึงได้วางแผนนำกำลังเข้าทำการตรวจสอบ และสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 ได้ พร้อมยาเสพติดของกลางดังกล่าว สำหรับบุคคลที่เกี่ยวข้องในเครือข่ายและมาตรการทางด้านทรัพย์สินขณะนี้อยู่ระหว่างขยายผล และรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป”