วันพุธ, 24 ธันวาคม 2568

คณะเกษตรศาสตร์ มทร.ศรีวิชัย ยกระดับการศึกษา จับมือ บริษัท มิตรเจริญฟาร์ม จำกัด และ บริษัท ทุ่งสงสยามฟาร์ม จำกัด บันทึกข้อตกลง (MOU)

วันที่ 24 ธันวาคม 2568 คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ธรรมศักดิ์ พุทธกาล คณบดี ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) ร่วมกับ 2 ยักษ์ใหญ่ผู้ประกอบการชั้นนำด้านเกษตรและเทคโนโลยี เพื่อร่วมกันพัฒนานักศึกษา ซึ่งเป็นกําลังหลักของตลาดแรงงาน งานวิจัยและพัฒนา รวมถึงการบริหารจัดการองค์ความรู้ อันจะช่วยยกระดับศักยภาพการแข่งขันของประเทศให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงในยุคปัจจุบัน ได้แก่ บริษัท มิตรเจริญฟาร์ม จำกัด และ บริษัท ทุ่งสงสยามฟาร์ม จำกัด โดยได้รับเกียรติจาก ผศ.ดร.ขวัญหัย ใจเปี่ยม รองอธิการบดีประจำวิทยาเขตนครศรีธรรมราช คณะผู้บริหาร คณาจารย์ นักศึกษา ร่วมแสดงความยินดีกับความร่วมมือดังกล่าว ณ ห้องประชุม 612 อาคารสีนวล คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช พื้นที่ไสใหญ่ ต.ถ้ำใหญ่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช

บริษัท มิตรเจริญฟาร์ม จำกัด ลงนามโดย นายมนตรี พลเยี่ยม กรรมการผู้จัดการบริษัท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการศึกษาของคณะเกษตรศาสตร์ เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร หรือวิสาหกิจชุมชน ศึกษาวิจัยและพัฒนาการสร้างมูลค่าเพิ่มของฟาร์มที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ และพัฒนาบุคลากร นักศึกษา รวมถึงการให้บริการวิชาการด้านการเลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจแก่สังคมและชุมชน
.
บริษัท ทุ่งสงสยามฟาร์ม จำกัด ลงนามโดย นางสาวมัสลิน ชินชฎาธาร กรรมการบริษัท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนความร่วมมือทางวิชาการในการให้คำปรึกษาและถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการจัดการฟาร์มไก่ไข่สมัยใหม่แก่บุคลากรของบริษัท เกษตรกรในเครือข่าย และผู้ที่สนใจ สนับสนุนและพัฒนาการจัดการเรียนการสอน การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ และสหกิจศึกษาของนักศึกษาของคณะเกษตรศาสตร์ให้มีคุณภาพและสอดคล้องกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรม อีกทั้งสร้างความร่วมมือในการศึกษา ค้นคว้า และทำวิจัย เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการจัดการฟาร์มไก่ไข่

จะเห็นได้ว่าการบันทึกข้อตกลงความเข้าใจทางวิชาการ (MOU) ดังกล่าว นับเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับการศึกษาภาคการเกษตรไทย โดยมุ่งสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก ผ่านการนำนวัตกรรมมาเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ส่งเสริมให้เกษตรกรไทยก้าวสู่ยุคใหม่ สู่ระบบเศรษฐกิจฐานรากที่มั่นคง แข่งขันได้ และเติบโตอย่างยั่งยืนในระดับสากลต่อไป