
จากเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2565 คือเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดริมถนนทางหลวงหมายเลข 4066 ในพื้นที่ บ้านบือแนลือโบะ ตำบลสุวารี อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส โดยเหตุการณ์ดังกล่าวมุ่งหวังทำร้ายเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนเพื่อรักษาความปลอดภัยครูในพื้นที่ แต่เกิดระเบิดก่อนเวลา จึงไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมพื้นที่ปิดกั้นที่เกิดเหตุ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชนเพิ่มเติมและเข้าตรวจสอบวัตถุพยานรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินติดตามและขยายผลเพื่อหาตัวกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย จนสามารถนำไปสู่การควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ทั้งสิ้น 8 ราย จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อดำเนินกรรมวิธีในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2567 ศาลจังหวัดนราธิวาส (ชั้นต้น) พิพากษา “จำคุกจำเลยทั้งแปด คนละ 33 ปี” ความผิดฐานก่อการร้าย อั้งยี่ ซ่องโจร สะสมกำลังพลฯ ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ร่วมกันพยายามฆ่าเจ้างานซึ่งกระทำการตามหน้าที่โดยไตร่ตรองไว้ก่อน พระราชบัญญัติอาวุธปืนและวัตถุระเบิดฯ เนื่องจากโจทก์มีพยานหลักฐานที่เชื่อว่าจำเลยคือกลุ่มคนร้ายในคดีนี้ ทั้งในชั้นพิจารณาจำเลยก็ให้การยอมรับว่าได้ร่วมลงมือก่อเหตุวางระเบิด พิพากษาจำคุกจำเลยทั้งแปดตลอดชีวิต แต่จำเลยทั้งแปดให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้ละกึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยทั้งแปด คนละ 33 ปี (ขังจำเลยทั้งแปดคน ระหว่างอุทธรณ์)
ต่อมา เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568 ศาลจังหวัดนราธิวาส อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ภาค 9 พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้น จาก “จำคุกจำเลยทั้ง 8 จำนวน 33 ปี” ความผิดฐานก่อการร้าย อั้งยี่ ซ่องโจร สะสมกำลังพลฯร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่โดยไตร่ตรองไว้ก่อน พระราชบัญญัติอาวุธปืนและวัตถุระเบิดฯ เนื่องจากศาลอุทธรณ์ ภาค 9 เชื่อว่าจำเลยทั้ง 8 ให้การรับสารภาพว่ากระทำผิดจริงตามที่โจทก์ฟ้อง โดยศาลอุทธรณ์ ภาค 9 แก้ฐานความผิดในเรื่อง เป็นการกระทำอันเป็นการสะสมกำลังพลและอาวุธเพื่อก่อการร้าย แล้วกระทำการอันใดเป็นการปกปิดไว้ ลงโทษจำคุก จำเลยทั้ง 8 จำนวน 3 ปี โดยลงโทษจำเลยทั้ง 8 ในความผิดฐานร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะทำตามหน้าที่ ให้จำคุกจำเลยทั้ง 8 ตลอดชีวิต โดยจำเลยทั้ง 8 ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยทั้ง 8 คนละ 26 ปี 6 เดือน (ขังจำเลยทั้ง 8 ระหว่างฎีกา)
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ยังคงยืนยันในเจตนารมณ์การแก้ปัญหาด้วยแนวทางของสันติวิธี และจะดำเนินการเร่งติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุคดีความั่นคงต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด รวมทั้งขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ หากผู้ใดพบเบาะแส หรือพบวัตถุต้องสงสัย รวมถึงบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรง แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โทร 061-1732999 หรือเบอร์สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง