
ตามที่ได้เกิดเหตุอาสาสมัครทหารพรานสังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4215 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 42 ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลบ้านน้ำบ่อ อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่เพื่อนร่วมงาน ซึ่งมีรายละเอียดของเหตุการณ์เกิดขึ้น ดังนี้
เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 เวลา 15.00 น. ปั๊มน้ำของกองร้อยซึ่งสูบน้ำขึ้นมาจากบ่อน้ำข้างกองร้อยเพื่อนำน้ำมาใช้ภายในกองร้อยมีปัญหาขัดข้อง อาสาสมัครทหารพราน พงษ์เดช นาแนวสุข และ สิบเอก ศราวุฒิ แก้วจันทร์ฤทธิ์ จึงได้แจ้งกับสิบเวรว่าปั๊มน้ำเสีย ขอออกไปตรวจสอบภายนอกรั้วฐานปฏิบัติการ ซึ่งก่อนที่จะออกไปนอกฐานปฏิบัติการได้แจ้งกับ อาสาสมัครทหารพราน ประวิทย์ เหลี่ยมพล ซึ่งกำลังเข้าเวรยามอยู่ ว่าจะออกไปตรวจสอบดู เมื่ออาสาสมัครทหารพราน พงษ์เดชฯ กำลังเดินไปตรวจสอบ อาสาสมัครทหารพราน ประวิทย์ฯ ได้ยิงเข้าใส่ อาสาสมัครทหารพราน พงษ์เดชฯ กระสุนถูกบริเวณท้อง และบริเวณแขนได้รับบาดเจ็บ จากนั้น อาสาสมัครทหารพราน ประวิทย์ฯ ได้นำอาวุธปืนหลบหนีไป ส่วนกำลังพลคนอื่น ๆ ภายในกองร้อยฯ ได้เร่งช่วยเหลือและนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลเป็นการเร่งด่วน ซึ่งขณะนี้อาการปลอดภัย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี
ส่วนของแรงจูงใจในการก่อเหตุ ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัด จากการสอบถามผู้บาดเจ็บเบื้องต้นไม่พบว่ามีปัญหาขัดแย้งส่วนตัวกับผู้ก่อเหตุมาก่อน ภายหลังเกิดเหตุหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 42 ได้ประสานงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ รวมทั้งผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น เร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุ ซึ่งคาดว่าอาจยังหลบซ่อนตัวอยู่ในบริเวณใกล้เคียงฐานปฏิบัติการ เพื่อนำตัวมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป และต่อมาในเวลา ประมาณ 21.40 น. อาสาสมัครทหารพราน ประวิทย์ฯ ผู้ก่อเหตุได้ออกมามอบตัวกับผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 42 ซึ่งหน่วยได้ส่งมอบตัวให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนการตามกฎหมายต่อไป
ภายหลังเกิดเหตุได้มีข่าวทางสื่อสังคมออนไลน์ โพสต์ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่ามีเหตุยิงกัน ทำให้กำลังพล เสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บอีก 4 นาย จึงขอเรียนให้สาธารณชนได้ทราบว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง และเป็นข่าวที่ไม่ได้ผ่านการตรวจสอบอย่างถูกต้อง ขอประชาชนอย่าหลงเชื่อหรือแชร์ข้อมูลที่ยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขอให้รับฟังข่าวสารจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า และขอให้พี่น้องประชาชนโปรดใช้วิจารณญาณในการเปิดรับข้อมูลข่าวสารอย่างรอบด้าน ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนที่จะเชื่อ หรือก่อนส่งต่อข้อมูลดังกล่าวออกไป ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสังคมโดยรวม