วันศุกร์, 5 กันยายน 2568

ผู้บัญชาการทหารบก ย้ำชัด “กำลังพลต้องปลอดภัย ประชาชนต้องมีความสุข เพื่อก่อเกิดสันติสุขถาวร มั่นคง และยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้” หน่วยปฏิบัติต้องมีสัญชาตญาณ ไหวพริบ คิดเร็ว และลึกซึ้ง

วันนี้ (4 กันยายน 2568) เวลา 08.30 น. พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พร้อมคณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบก ลงพื้นที่ติดตามการปฏิบัติภารกิจของหน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 44 (ฉก.ตชด.44) อำเภอธารโต จังหวัดยะลา โดยมี พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมผู้บังคับบัญชา และคณะฝ่ายอำนวยการของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ร่วมให้การต้อนรับ

โอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้เข้าร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่กำลังพลที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อน้อมรำลึกถึงคุณงามความดี ความกล้าหาญ และความเสียสละ โดยมีพระครูปุณญาภิบาล เจ้าคณะอำเภอธารโต (ธรรมยุต) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และมีผู้บังคับบัญชารวมถึงกำลังพลทุกระดับชั้นร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง

จากนั้น พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะฯ ได้รับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์พื้นที่จาก พันตำรวจโท ธีรศักดิ์ โพธิ์ศรีมา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 44 โดยรายงานว่า ในพื้นที่อำเภอเบตงไม่พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ขณะที่พื้นที่อำเภอธารโตยังคงปรากฏการเคลื่อนไหว โดยมุ่งโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐและโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ด้วยวิธีการก่อเหตุที่หลากหลาย อาทิ ซุ่มยิง ลอบวางระเบิด และลอบโจมตีแบบใช้กำลังพลจำนวนน้อย เพื่อให้เกิดความสูญเสียและสร้างผลกระทบต่อขวัญกำลังใจ

ก่อนเดินทางกลับ ผู้บัญชาการทหารบกได้มอบสิ่งของอุปโภคบริโภคและกล่าวชื่นชมกำลังพลทุกนายที่มุ่งมั่น เสียสละปฏิบัติหน้าที่ พร้อมกำชับผู้บังคับหน่วยต้องมี สัญชาตญาณ ไหวพริบ ความคิดรวดเร็ว ลึกซึ้ง และมีภาวะผู้นำ รวมทั้งจัดมอบหมายงานให้ชัดเจนตรงตามความสามารถของแต่ละบุคคล ย้ำให้ทุกหน่วยดูแลความปลอดภัยของกำลังพลและประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ เตรียมแผนเผชิญเหตุให้พร้อมตลอด 24 ชั่วโมง และจำกัดเสรีการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่ยังพยายามสร้างสถานการณ์ในพื้นที่

พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ยังเน้นว่า การปฏิบัติภารกิจต้องยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ใช้มาตรการเชิงรุกควบคู่กับการประชาสัมพันธ์และกิจการพลเรือน เพื่อสร้างความเข้าใจและความร่วมมือกับประชาชน ขณะเดียวกัน ทุกหน่วยต้องบูรณาการร่วมกับตำรวจ ฝ่ายปกครอง ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และผู้นำศาสนา เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาในพื้นที่อย่างเป็นเอกภาพ

การลงพื้นที่ครั้งนี้ แสดงถึงความมุ่งมั่นของกองทัพบกในการเสริมสร้างสันติสุข พัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน และสร้างความมั่นคงอย่างยั่งยืนในจังหวัดชายแดนภาคใต้