วันนี้ (3 กันยายน 2568) เวลา 15.30 น. พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร นำคณะผู้บังคับบัญชากองทัพบก ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อประชุมหารือข้อราชการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุม 1 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี โดยมี พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมคณะผู้บังคับบัญชาทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และภาคพลเรือน เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
พลโท ไพศาล หนูสังข์ กล่าวต้อนรับและย้ำว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ถือเป็นกำลังใจสำคัญต่อเจ้าหน้าที่ พร้อมยืนยันว่า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ยังคงมุ่งมั่นเดินหน้ายกระดับการดูแลพื้นที่ ทั้งการบังคับใช้กฎหมายควบคู่กับการสร้างความเข้าใจและความร่วมมือจากประชาชน เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาใน จชต. อย่างยั่งยืน
ในการประชุม หน่วยงานด้านความมั่นคงได้รายงานภาพรวมสถานการณ์และผลการปฏิบัติงาน ขณะกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้รายงานความคืบหน้าคดีสำคัญและมาตรการเชิงรุก ส่วนศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) นำเสนอการขับเคลื่อนงานพัฒนาในทุกมิติ โดยเฉพาะโครงการ “120 วัน วาระพืชกระท่อม” ที่เป็นความร่วมมือในการสร้างสุขภาวะ ลดปัญหาสังคม และส่งเสริมการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ
ผู้บัญชาการทหารบก ได้เน้นย้ำว่า การแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องอาศัยการทำงานบูรณาการทุกมิติ ทั้งด้านความมั่นคง การพัฒนา และการสร้างความเข้าใจ เพื่อลดเงื่อนไขความขัดแย้งและเพิ่มพูนความไว้วางใจในสังคมพหุวัฒนธรรม พร้อมกำชับให้ทุกหน่วยงานส่งต่อข้อมูลและบทเรียนสำคัญ เพื่อเสริมประสิทธิภาพในช่วงการเปลี่ยนผ่านปีงบประมาณ
ภายหลังการประชุม ผู้บัญชาการทหารบก และคณะ พร้อมแม่ทัพภาคที่ 4 ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมศูนย์สันติวิธี ค่ายสิรินธร เพื่อรับฟังการบรรยายสรุป โดย พลตรี เฉลิมชัย สุทธินวล ผู้อำนวยการศูนย์สันติวิธี ได้นำเสนอการดำเนินงานที่ยึดแนวทางสันติวิธีและน้อมนำศาสตร์พระราชา “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” เป็นหลักในการทำงาน ทั้งด้านการเมือง การสร้างค่านิยมที่ถูกต้อง และการพัฒนาศักยภาพประชาชน ผ่านโครงการและกิจกรรมที่หลากหลาย
การลงพื้นที่ครั้งนี้สะท้อนถึงความจริงจังของกองทัพบกและทุกภาคส่วนในการ “ร่วมกันแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้” อย่างรอบด้าน โดยไม่เพียงมุ่งรักษาความปลอดภัย แต่ยังขับเคลื่อนการพัฒนาและสร้างสภาพแวดล้อมที่เกื้อกูลต่อสันติสุขในระยะยาว