วันอังคาร, 3 มิถุนายน 2568

“พลังสตรีบองอ” สะท้อนพลังใจชายแดนใต้ ศูนย์สันติวิธี กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ขับเคลื่อนความเข้าใจผ่านพหุวัฒนธรรม สู่สันติสุขที่ยั่งยืน

วันที่ 1 มิถุนายน 2568 ในยุทธศาสตร์แห่งการสร้างสันติสุขบนฐานความเข้าใจ พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้มอบหมายให้ พลตรี เฉลิมชัย สุทธินวล ผู้อำนวยการศูนย์สันติวิธี กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า นำคณะเครือข่ายสตรีจากตำบลบองอ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส จำนวน 200 คน เดินทางสู่จังหวัดสงขลา เพื่อร่วมกิจกรรม “สร้างสรรค์ เรียนรู้ เข้าใจ” ระหว่างวันที่ 1 – 2 มิถุนายน 2568 โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับความรู้ เสริมสร้างพลังสตรี และวางรากฐานแห่งสันติภาพด้วยหัวใจ

กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้น ณ ค่ายพระปกเกล้า กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 5 จังหวัดสงขลา และแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ในย่านเมืองเก่าสงขลา ทั้งพิพิธภัณฑ์ โบราณสถาน วัดวาอาราม มัสยิดกลาง และชุมชนดั้งเดิม ซึ่งสะท้อนภาพของ “สังคมพหุวัฒนธรรม” ที่อยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนมาอย่างยาวนาน

“แม่ คือหัวใจของสันติภาพ” นี่คือหัวใจสำคัญของกิจกรรมที่เน้นย้ำบทบาทของกลุ่มสตรีในฐานะผู้ปลูกฝังคุณธรรม ความเข้าใจ และการอยู่ร่วมกันอย่างสันติให้แก่ครอบครัวและชุมชน โดยอาศัยแนวทาง “เริ่มที่แม่ แก้ที่พ่อ ก่อที่ลูก ปลูกที่ครู และเคารพผู้นำศาสนา” เป็นแกนกลางของการเปลี่ยนแปลงจากภายในสู่ภายนอก

ภายในกิจกรรมยังจัดให้มีการเสวนา แลกเปลี่ยนมุมมอง และเสริมศักยภาพผู้นำสตรีในระดับชุมชน เพื่อผลักดันให้เกิด “เครือข่ายความคิด” ที่สามารถขยายแนวนโยบายของรัฐสู่ระดับครัวเรือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และต่อยอดเป็นพลังร่วมในการคลี่คลายปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างยั่งยืน

เป้าหมายหลัก 6 ประการ ที่สะท้อนยุทธศาสตร์สันติสุข

  1. เปิดโลกทัศน์ แก่สตรีในการเรียนรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่หลากหลาย
  2. ยกระดับบทบาทผู้นำชุมชนหญิง สู่การเป็นกระบอกเสียงในพื้นที่
  3. เสริมสร้างแนวคิดสันติวิธี ในการแก้ไขปัญหาแทนการใช้ความรุนแรง
  4. สานสัมพันธ์เครือข่ายสตรี ให้เข้มแข็งต่อยอดสู่การพัฒนาครัวเรือน
  5. สร้างความเชื่อมั่นต่อภาครัฐ และเปิดพื้นที่แห่งความร่วมมือ
  6. ฟื้นฟูสังคมพหุวัฒนธรรม ผ่านการศึกษา เศรษฐกิจ และอาชีพ

กิจกรรม “สร้างสรรค์ เรียนรู้ เข้าใจ” จึงเป็นมากกว่าการศึกษาดูงาน หากแต่เป็นเวทีแห่งการจุดประกาย “พลังสตรี” เพื่อเป็นกลไกแห่งความเปลี่ยนแปลง ด้วยความเชื่อมั่นว่าความเข้าใจคือกุญแจแห่งสันติภาพ และสตรีคือผู้จุดแสงแห่งอนาคตให้แก่ครอบครัว ชุมชน และประเทศชาติ