
เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2568 เวลา 0700 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา พลตรี ภูมเดชา พ่วงเจริญ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 42 ร่วมในพิธีอัญเชิญไฟพระฤกษ์ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม 2568 โดยกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นพร้อมกันทั้ง 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จังหวัดชลบุรี นครราชสีมา และ จังหวัดสงขลา
ซึ่งพี่น้องประชาชน จะออกวิ่งพร้อมกันในช่วงเช้า โดยแต่ละจังหวัดจะมีผู้เข้าร่วมจังหวัดละ 1,000 คน รวมทั้งหมด 4,000 คน โดยมี นายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พันเอก ธนุตม์ พิศาลสิทธิวัฒน์ รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 42 พันเอก วาทยุทธ ชูช่วย รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 42 พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ตลอดจน พี่น้องประชาชน เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก
ต่อจากนั้น พลตรี ภูมเดชา พ่วงเจริญ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 42 พร้อมทั้ง รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 42 ทั้ง 2 ท่าน ร่วมวิ่งคบเพลิงไฟพระฤกษ์ ซึ่งจะมีผู้ถือคบเพลิงรวม 4 จังหวัดทั้งหมด 292 ผลัด โดยแต่ละจังหวัดจะมีนักกีฬา, ผู้แทนสมาคมกีฬา, ผู้บริหาร, ตัวแทนจากผู้สนับสนุนเข้าร่วมอย่างทั่วถึง ซึ่งหลังจากกิจกรรมเสร็จสิ้น ไฟพระฤกษ์ของกรุงเทพมหานคร จังหวัดชลบุรี และจังหวัดสงขลา จะได้อัญเชิญไว้ ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา กกท. เพื่อเตรียมไว้สำหรับพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ต่อไป ส่วนที่จังหวัดนครราชสีมา จะอัญเชิญไว้ที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา เพื่อเตรียมใช้ในพิธีเปิดกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13
สำหรับ ไฟพระฤกษ์ ถือเป็นไฟพระราชทานซึ่งมีการขอพระราชทานจาก พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2510 เพื่อประดิษฐานในกระถางคบเพลิงของการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ การแข่งขันกีฬาระดับประเทศ และกีฬานานาชาติที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ อาทิ เอเชียนเกมส์ และซีเกมส์ ไฟพระฤกษ์นับเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นสิริมงคล ความศักดิ์สิทธิ์ ความรุ่งโรจน์ และความสำเร็จ อีกทั้งเป็นขวัญและกำลังใจแก่คณะนักกีฬา เจ้าหน้าที่ และผู้จัดงาน ในการปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จลุล่วงอย่างสมบูรณ์


































