วันศุกร์, 27 มิถุนายน 2568

มรภ.สงขลา อบรมพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าบาติกลายโนราทันฑสถานหญิงฯ ต่อยอดหัตถกรรมผ้าพื้นถิ่น ใช้ศิลปะสร้างชีวิตใหม่ผู้ต้องขัง

สำนักศิลปะฯ มรภ.สงขลา จัดอบรมพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าบาติกลายโนราทันฑสถานหญิงสงขลา ถ่ายทอดความรู้ผู้ต้องขังหญิง ต่อยอดเครื่องแต่งกายโนราเชิงสร้างสรรค์ พลิกฟื้นทุนทางวัฒนธรรมสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ผ่านการใช้ศิลปะเป็นเครื่องมือมอบโอกาสและสร้างชีวิตใหม่ให้ผู้คนในสังคม

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2568 ผศ.พิเชษฐ์ จันทวี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “การพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าบาติกลายโนราของทันฑสถานหญิงสงขลา” จัดโดยสำนักศิลปะและวัฒนธรรม ร่วมกับทัณฑสถานหญิงสงขลา และคณะศิลปกรรมศาสตร์ มรภ.สงขลา ระหว่างวันที่ 10-13 มิถุนายน 2568 และ 26-27 มิถุนายน 2568 ณ ทันฑสถานหญิงสงขลา วัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาทักษะด้านหัตถกรรมผ้าพื้นถิ่น ซึ่งแสดงออกถึงการส่งเสริม Soft Power ด้านผ้าบาติกของ จ.สงขลา และถ่ายทอดความรู้แก่ผู้ต้องขังหญิงในการต่อยอดผลิตภัณฑ์ลวดลายโนรา เพื่อพัฒนาวิชาชีพที่สามารถนำไปต่อยอดสร้างรายได้และสร้างโอกาสให้ตนเองในอนาคต ตลอดจนส่งเสริม อนุรักษ์ และเผยแพร่วัฒนธรรมการแสดงท้องถิ่น (โนรา) ผ่านผืนผ้าบาติกอัตลักษณ์ท้องถิ่นสงขลาให้เป็นที่ประจักษ์ในท้องถิ่น

ทั้งนี้ สำนักศิลปะและวัฒนธรรมมีแนวคิดในการนำลวดลายจากชุดแต่งกายโนราที่ได้จากงานวิจัย นำไปถ่ายทอดให้กับชุมชน เพื่อเป็นการสร้างมูลค่าจากงานวิจัยและพัฒนาต่อยอดทุนทางวัฒนธรรมผ่านลวดลายผ้า นำทีมถ่ายทอดความรู้โดยคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ อาจารย์รพีพัฒน์ ผลรัตนไพบูลย์ ผศ.ดร.จรรย์สมร ผลบุญ จากคณะศิลปกรรมศาสตร์ มรภ.สงขลา และ อาจารย์โอภาส อิสโม รองผู้อำนวยการสำนักศิลปะและวัฒนธรรม ซึ่งร่วมกันสอนทักษะทุกขั้นตอนอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่การออกแบบลาย การใช้สี ไปจนถึงเทคนิคต่างๆ เพื่อสร้างสรรค์ผ้าบาติกที่เป็นเอกลักษณ์ บนพื้นฐานความเชื่อที่ว่าว่าศิลปะไม่เพียงแต่ช่วยอนุรักษ์วัฒนธรรม แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการมอบโอกาสและสร้างชีวิตใหม่ให้กับผู้คนในสังคม

ผศ.พิเชษฐ์ จันทวี กล่าวว่า ขอแสดงความชื่นชมคณะผู้จัดทำโครงการฯ ที่ได้นำมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าอย่าง “เครื่องแต่งกายโนรา” มาต่อยอดเชิงสร้างสรรค์ ถือเป็นการพลิกฟื้นทุนทางวัฒนธรรมให้กลับมามีชีวิตชีวา และสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจได้อย่างเป็นรูปธรรม โครงการนี้มีความสำคัญในหลายมิติ ประการแรก คือ การอนุรักษ์และสืบสานมรดกโนรา ด้วยการนำลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์มาประยุกต์ใช้กับผ้าบาติก ซึ่งไม่เพียงแต่จะทำให้ศิลปะแขนงนี้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง แต่ยังเป็นการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อัตลักษณ์ใหม่ให้กับจังหวัดสงขลา สอดรับกับนโยบายการส่งเสริม Soft Power ของประเทศ

ประการที่สอง คือ การสร้างโอกาสและพัฒนาคุณภาพชีวิต การมอบทักษะอาชีพให้แก่ผู้ต้องขังหญิงในทัณฑสถานหญิงสงขลา ถือเป็นการมอบเครื่องมือที่สำคัญในการสร้างรายได้และพึ่งพาตนเองได้ในอนาคต เป็นการให้กำลังใจและเตรียมความพร้อมสำหรับการกลับคืนสู่สังคมอย่างมีคุณค่าและภาคภูมิใจ ขอชื่นชมสำนักศิลปะและวัฒนธรรม คณะทำงาน และหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ริเริ่มและผลักดันให้เกิดโครงการที่ดีเช่นนี้ขึ้น และขอให้ผู้เข้าร่วมการอบรมนำความรู้ ทักษะ และประสบการณ์จากวิทยากรไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งต่อตนเองและต่อการสืบสานวัฒนธรรมของท้องถิ่นเรา

การจัดอบรมในครั้งนี้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) เป้าหมายที่ 1 ยุติความยากจนทุกรูปแบบในทุกที่ เป้าหมายที่ 4 สร้างหลักประกันว่าทุกคนมีการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างครอบคลุมและเท่าเทียม และสนับสนุนโอกาสในการเรียนรู้ตลอดชีวิต เป้าหมายที่ 8 ส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่อง ครอบคลุม และยั่งยืน การจ้างงานเต็มที่และมีประสิทธิภาพ และการมีงานที่มีคุณค่าสำหรับทุกคน และ เป้าหมายที่ 17 เสริมความเข้มแข็งให้แก่กลไกการดำเนินงานและฟื้นฟูสภาพหุ้นส่วนความร่วมมือระดับโลกสำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืน
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.skru.ac.th/th/photo/2025062701

ข้อมูลและรูป โดย สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มรภ.สงขลา และ ทันฑสถานหญิงสงขลา