เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 68 เวลา 13.30 น. ณ ห้องราชสีห์ ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในการประชุมหารือแนวทางการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยมีผู้แทนจากสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย และสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย เข้าร่วม
นายเดชอิศม์ กล่าวว่า การกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นสิ่งที่ตนให้การสนับสนุน และขับเคลื่อนมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุผลสำคัญ 3 ข้อ ประกอบด้วย 1. ท้องถิ่นคือผู้ที่รับรู้ปัญหาเชิงพื้นที่ได้ดีที่สุด 2. ท้องถิ่นรู้วิธีแก้ไขปัญหาได้ดีที่สุด และ 3. ผู้บริหารของท้องถิ่นใกล้ชิดพี่น้องประชาชนประชาชนมากที่สุด
“วันนี้จึงเป็นการดีเดย์ครั้งแรกที่เราได้มาร่วมหารือในประเด็นสำคัญ ทั้งในด้านงานทรัพยากรบุคคล ที่ท้องถิ่นไม่สามารถบริหารจัดการบุคลากรในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเองได้ ด้านงบประมาณและการจัดเก็บรายได้ของท้องถิ่น หรือแม้การกระจายรายได้กลับคืนสู่ท้องถิ่น อย่างไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ซึ่งเราจะได้ดำเนินการตั้งชุดเฉพาะกิจศึกษาความเป็นไปได้และดำเนินการจัดทำร่างกฎหมายในส่วนนี้ใหม่ให้เหมาะสม” นายเดชอิศม์ กล่าว
นายเดชอิศม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีหน้าที่หลัก คือ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้แก่พี่น้องประชาชน เราควรเขียนกฎหมายไว้เฉพาะในสิ่งที่ทำไม่ได้ ส่วนสิ่งไหนที่เป็นประโยชน์ควรเปิดโอกาสให้สามารถดำเนินการได้ตามความต้องการของพื้นที่ เพราะไม่เช่นนั้นท้องถิ่นจะขาดความเป็นอิสระในการทำงาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือเรื่องเร่งด่วนที่เราจะต้องแก้ไข ผ่านกลไกความร่วมมือระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นด้วย
“การกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คือเรื่องที่พวกเราต้องร่วมกันขับเคลื่อนอย่างจริงจัง เราต้องมาร่วมกันเป็นพลัง ตนเชื่อว่า อปท. ทั้ง 7,845 แห่งทั่วประเทศต่างพูดเป็นสิ่งเดียวกันว่าเราเป็นองค์กรที่เข้มแข็งและมีศักยภาพไม่น้อยกว่าองค์กรใหญ่ เพราะฉะนั้น ตนเชื่อว่าตลอดระยะเวลาที่ได้ปฏิบัติราชการอยู่ในกระทรวงมหาดไทย จะมุ่งมั่น “ปลดล็อค” ข้อจำกัด ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงให้แก่ท้องถิ่นไทยสุดกำลังความสามารถ เพื่อให้ทุกท่านสามารถทำงานเพื่อสังคมได้อย่างเต็มที่ เพราะไม่มีใครแก้ปัญหาให้ท้องถิ่นดีเท่าพวกท่านที่เป็นคนในท้องถิ่นเอง“ นายเดชอิศม์ กล่าวในช่วงท้าย