
วันที่ (11 มิถุนายน 2568) เวลา 13.30 น. ที่ โรงแรมริเวอร์ อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมกล่าวการปฐมนิเทศเจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงาน รวมพลังจิตอาสาเอาชนะยาเสพติด จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใต้แผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4, พลตรี วรเดช เดชรักษา รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า, นายนันทพงศ์ สุวรรณรัตน์ รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้, นางสาว อารีภักดิ์ เงินบำรุง รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด, พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมควบคุมความประพฤติพร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ตลอดจนพี่น้องประชาชนในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับ

โอกาสนี้ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ปัญหายาเสพติดในปัจจุบันได้กลายเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศ ไม่ใช่เพียงภัยแทรกซ้อนอย่างที่ผ่านมา เพราะส่งผลกระทบโดยตรงต่อความสงบสุขของพี่น้องประชาชน รวมทั้งเป็นการบ่อนทำลายชีวิตและศักยภาพของประชากร โดยเฉพาะในรูปแบบของ “โรคสมองติดยา” ซึ่งเป็นผลร้ายแรงจากการใช้สารเสพติดอย่างต่อเนื่อง
ในการลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในครั้งนี้ จึงถือเป็นวาระสำคัญที่ทุกภาคส่วนจะได้ร่วมประกาศเจตจำนงในการรวมพลังจิตอาสา เพื่อเอาชนะปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง โดยมี พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นหัวหน้าคณะทำงานในพื้นที่
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมยังเน้นย้ำว่า แนวทางแก้ไขต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการทำลายระบบเครือข่ายของผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ให้หมดสิ้น เพื่อไม่ให้ขยายตัวหรือสร้างผลกระทบวงกว้างในอนาคต
หนึ่งในปัญหาสำคัญที่ต้องเร่งจัดการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ การแพร่ระบาดของ น้ำกระท่อม ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เด็กและเยาวชนเข้าสู่วงจรยาเสพติดชนิดอื่น จึงจำเป็นต้องมีมาตรการควบคุมและเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด

ในระยะยาว กระทรวงยุติธรรมมีแนวทางที่จะใช้ นิติวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะการตรวจเส้นผมเพื่อตรวจหาสารเสพติด ซึ่งจะช่วยในการค้นหาและคัดกรองผู้ติดยาอย่างแม่นยำ ก่อนจะนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาเพื่อฟื้นฟูและคืนคนดีให้กลับสู่สังคมต่อไป