วันนี้ (22 พฤษภาคม 2568) เวลา 10.00 น. ที่หน่วยฝึกทหารใหม่ กองพันมณฑลทหารบกที่ 42 ค่ายเสนาณรงค์ ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พลตรี วรเดช เดชรักษา รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เยี่ยมพบปะให้กำลังใจน้องเล็กของกองทัพบก ซึ่งในขณะนี้ทหารกองประจำการผลัดที่ 1/2568 อยู่ในห้วงของการฝึกทหารใหม่ โดยมี พันเอก กุดั่น ทองคำ ผู้บังคับกองพันมณฑลทหารบกที่ 42 พร้อมด้วยผู้ฝึก ครูฝึก และกำลังพลให้การต้อนรับ ขณะที่หน่วยฝึกทหารใหม่ที่นี่มียอดสมัครใจเข้ารับราชการเป็นทหารกองประจำการเกินกว่าเป้าหมายปีที่ผ่านมา สะท้อนความตระหนักในหน้าที่และความสนใจสู่อาชีพทหารในอนาคต
โอกาสนี้ พลตรี วรเดช เดชรักษา รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ระบุว่า ผู้บัญชาการทหารบกและผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นมีความห่วงใย และขอส่งกำลังใจถึงน้องทหารใหม่ทุกนาย ขอให้มีความอดทน หมั่นฝึกฝนเรียนรู้ ปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากน้องทหารใหม่แต่ละนายมีความเป็นอยู่ วิถีชีวิต หลากหลายอาชีพ และมีความเป็นสังคมพหุวัฒนธรรม ประกอบด้วยผู้นับถือศาสนาพุทธและศาสนาอิสลาม เมื่อได้มาอยู่ร่วมกันแล้ว ขอให้รู้รักสามัคคีให้พร้อมเป็นผู้นำในอนาคต คือ ฝึกให้เป็นผู้เสียสละ อดทน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ สามารถควบคุมอารมณ์จิตใจ ต่ออุปสรรคให้ผ่านพ้นในทุกสภาพปัญหา ยืนยันกองทัพบกจะดูแลน้องทหารใหม่อย่างดีที่สุด ย้ำผู้ฝึก ครูฝึก เปรียบเสมือนอาจารย์ ครู ผู้ประสิทธิ์ วิชาความรู้ ให้ถ่ายทอดความรู้แก่ลูกศิษย์ คือ น้องทหารใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งปรับสภาพให้มีความแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ ด้วยการเสริมสมรรถภาพร่างกายด้านโภชนาการ สิทธิและสวัสดิการ เน้นส่งเสริมต่อยอดการศึกษา รวมทั้งให้หน่วยทหารเยี่ยมเยือนและช่วยเหลือครอบครัวของทหารใหม่ที่ประสบปัญหาด้านสุขภาพและเศรษฐกิจ ควบคู่การผลักดันความถนัดของทหารใหม่แต่ละบุคคล เพื่อเพิ่มโอกาสต่อยอดการรับราชการทหารในอนาคต กำชับหน่วยฝึกทหารใหม่ปฏิบัติงานเชิงรุก ต้องติดตามสถานการณ์เพื่อป้องกันและเฝ้าระวังการเจ็บป่วยจากความร้อน โรคระบาด และสุขภาวะทางจิตอย่างใกล้ชิด ต้องประเมินดัชนีความร้อนในพื้นที่ฝึกและโรงนอนเพื่อป้องกันการเจ็บป่วยจากความร้อน รวมทั้งจัดเตรียมซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ และการปฐมพยาบาล เพื่อให้มีความพร้อมในสถานการณ์ฉุกเฉินทันทีเมื่อเกิดเหตุ
อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการทหารบก ได้เน้นย้ำให้ผู้บังคับบัญชา ไม่ว่าจะเป็นผู้บังคับกองพัน หรือผู้บังคับการกรม ลงมาดูแลการฝึกด้วยตัวเอง เพราะถือว่ามีประสบการณ์มาก่อน และดูแลทหารใหม่อย่างดีที่สุด เหมือนน้องชายคนเล็กของกองทัพบก เพราะ…“เราคือครอบครัวเดียวกัน”
