วันอังคาร, 1 กรกฎาคม 2568

รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. ย้ำเจ้าหน้าที่ติดตามตัวผู้กระทำผิดทุกเหตุการณ์เข้าสู่กระบวนการ ยึดหลักสิทธิมนุษยชน ผู้ก่อเหตุหวังสร้างสถานการณ์และกระทบต่อการดำรงชีพของประชาชน เชิญชวนประชาชนร่วมติดตั้ง CCTV เสริมการทำงานเจ้าหน้าที่ และทุกพื้นที่ใน จชต. ยกระดับความปลอดภัยสูงสุด

วันนี้ (30 มิถุนายน 2568) เวลา 14.15 น. ที่ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี พันเอก ปองพล สุทธิเบญจกุล รองโฆษกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยเกี่ยวกับความคืบหน้าเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่สำคัญในห้วงที่ผ่านมา โดยเรื่องแรก คือ ความคืบหน้าเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงโรงจอดรถองค์การบริหารส่วนตำบลแป้น ทำให้ยานพาหนะของทางราชการ คือ รถดับเพลิง, รถเก็บขยะ, รถกู้ชีพ, รถกระบะ 4 ประตู, รถจักรยานยนต์ และ อาคารที่ว่าการองค์การบริหารส่วนตำบลแป้น บ้านจะเฆ่ตก หมู่ที่ 3 ตำบลแป้น อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี ได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ทั้งนี้ยังพบการก่อกวนและวัตถุต้องสงสัย บริเวณรอบๆพื้นที่เกิดเหตุ ซึ่งคาดว่าเป็นการกระทำของคนร้าย เพื่อต้องการป้องกันกำลังเจ้าหน้าที่ที่อาจเข้ามาเพิ่มเติม ทำให้คนร้ายมีช่องทางในการหลบหนีได้ โดยเหตุการณ์ก่อกวนและวัตถุต้องสงสัย ที่อยู่บริเวณรอบที่เกิดเหตุรายละเอียด ดังนี้ 

 – เหตุก่อกวนเผายางรถยนต์และโรยตะปูเรือใบ บริเวณถนนหมายเลข 4015 บ้านบางเก่าใต้ หมู่ที่ 2 ตำบลบางเก่า อำเภอสายบุรี

– พบวัตถุต้องสงสัยลักษณะเป็นท่อ กว้าง ประมาณ 4 นิ้ว ยาว ประมาณ 10 นิ้ว จำนวน 2 จุด ภายหลังได้ทำการตรวจสอบพบเป็นระเบิดแสวงเครื่อง วางอยู่บริเวณริมถนนทางหลวงหมายเลข 4060 (ห่างจากมัสยิดบ้านกำปงบารู ประมาณ 70 เมตร) เขตรอยต่อระหว่าง บ้านบาโง หมู่ที่ 1 และ บ้านกำปงบารู หมู่ที่ 3 ตำบลกะรุบี อำเภอกะพ้อ

 – พบวัตถุต้องสงสัยทรงกระบอก สีดำสูงประมาณ 30 เซนติเมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง ประมาณ 15 เซนติเมตร มีสายไฟด้านบน จำนวน 2 เส้น ภายหลังได้ทำการตรวจสอบพบเป็นระเบิดแสวงเครื่อง วางอยู่บริเวณริมถนนทางหลวงหมายเลข 4060 บ้านอุแตบือราแง หมู่ที่ 2 ตำบลตะโละดือรามัน อำเภอกะพ้อ

– พบวัตถุต้องสงสัย ภายหลังได้ทำการตรวจสอบพบเป็นระเบิดแสวงเครื่อง วางไว้บริเวณริมถนนทางหลวงหมายเลข 2026 บ้านมอแซง หมู่ที่ 4 ตำบลปล่องหอย อำเภอกะพ้อ และ บริเวณสะพาน บ้านมือลอ หมู่ที่ 7 ตำบลปล่องหอย อำเภอกะพ้อ

สำหรับเหตุการณ์นี้จะเห็นได้ว่ากลุ่มคนร้ายมีความพยายามทำลายยานพาหนะและสถานที่ราชการ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นที่ใช้ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในยามภัยพิบัติและอุทกภัย อาทิ รถดับเพลิง, รถเก็บขยะ และ รถกู้ชีพ เมื่อยานพาหนะหรือสิ่งของเหล่านี้ถูกทำลายไม่สามารถใช้งานได้ โดยกลุ่มคนร้าย จึงส่งผลกระทบโดยตรงต่อพี่น้องประชาชนในเมื่อมีความจำเป็นต้องใช้ ส่วนเรื่องที่ 2 คือ ความคืบหน้าเหตุกลุ่มคนร้ายประมาณ 15 คน ลอบปาระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์และใช้อาวุธปืนยิงใส่ฐานปฏิบัติการ ชุดคุ้มครองตำบลเกียร์ อำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา แต่ขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ที่อยู่ประจำฐานปฏิบัติการได้เข้าประจำแนวปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุ และได้มีการยิงตอบโต้กลุ่มคนร้ายประมาณ 15 นาที ทำให้กลุ่มคนร้ายล่าถอยไป จากเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้เจ้าหน้าที่บาดเจ็บ จำนวน 2 นาย คือ คือ จ่าสิบเอก อภิสิทธิ ศรีอนุรักษ์ อายุ 43 ปี ถูกยิงบริเวณแผ่นหลัง และ สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน แวฮัมรัม แวสาเมาะ อายุ 41 ปี ถูกยิงบริเวณศีรษะ ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 นาย ยังคงรู้สึกตัวดี และรับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก ทั้ง 2 นาย โดยหลังเกิดเหตุได้ดำเนินการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบระเบิดแสวงเครื่องแบบไปบ์บอมบ์ที่ไม่ทำงาน จำนวน 2 ลูก เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดจึงได้ทำการยิงทำลายระเบิดแสวงเครื่องดังกล่าว

และในวันเดียวกัน เวลา 15.43 น. พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พร้อมเน้นย้ำยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยพื้นที่ สร้างความเชื่อมั่นและความปลอดภัยให้กับเจ้าหน้าที่ประจำฐานปฏิบัติการรวมทั้งประชาชนในพื้นที่เต็มกำลัง

 ล่าสุดเมื่อวานนี้ (วันที่ 29 มิถุนายน 2568) เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อเก็บวัตถุพยานหลักฐาน ตรวจพบ ปลอกกระสุนปืน ขนาด 5.56 มิลลิเมตร จำนวน 400 ปลอก, กระสุนปืน ขนาด 5.56 มิลลิเมตร จำนวน 55 นัด, ปลอกกระสุน ขนาด 7.62 มิลลิเมตร nato จำนวน 210 ปลอก, กระสุนปืนขนาด 7.62 มิลลิเมตร nato จำนวน 6 นัด, ปลอกกระสุนปืนขนาด 7.62 มิลลิเมตร rus จำนวน 41 ปลอก, กระสุนปืน ขนาด 7.62 มิลลิเมตร rus จำนวน 2 นัด, ปลอกกระสุนปืนลูกซอง จำนวน 70 ปลอก, กระสุนปืนลูกซอง จำนวน 13 นัด, ปลอกกระสุนปืน ขนาด 9 มิลลิเมตร จำนวน 7 นัด, กระเดื่อง จำนวน 19 ชิ้น และ สลักนิรภัย จำนวน 14 ชิ้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าในห้วงที่ผ่านมากลุ่มคนร้ายมีความพยายามที่จะทำลายกำลังที่เป็นเชิงสัญลักษณ์ของรัฐในพื้นที่ แต่มีข้อสังเกตว่ากำลังหลักที่เป็นเชิงสัญลักษณ์ของรัฐในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ส่วนใหญ่เป็นคนมลายูมุสลิมในพื้นที่เกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ นั่นก็คือ กำลังพลกองอาสารักษาดินแดนนั่นเอง และเรื่องที่ 3 คือ เหตุคนร้ายก่อกวน เผาทำลายกล้องวงจรปิด เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2568 เวลาประมาณ 00.10 น. เหตุเกิดในพื้นที่จังหวัดปัตตานี จำนวน 14 จุด กล้องได้รับความเสียหาย จำนวน 21 ตัว ดังนี้

 1. พื้นที่อำเภอปะนาเระ จำนวน 5 จุด มีกล้องได้รับความเสียหาย จำนวน 8 ตัว รายละเอียดดังนี้

 – บริเวณหน้ามัสยิดหัวเขาแก้ว หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านกลาง จำนวน 2 ตัว

 – บริเวณหน้ามัสยิดท่าชะเมา หมู่ที่ 2 ตำบลบ้านกลาง จำนวน 2 ตัว

 – บริเวณหน้า องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านน้ำบ่อ หมู่ที่ 2 ตำบลบ้านน้ำบ่อ จำนวน 2 ตัว

 – บริเวณสามแยกชลาลัยบ้านปะนาเระ หมู่ที่ 1 ตำบลปะนาเระ จำนวน 1 ตัว

 – บริเวณแยกโรงเรียนบ้านคาโต หมู่ที่ 5 ตำบลปะนาเระ จำนวน 1 ตัว

 2. พื้นที่ อำเภอทุ่งยางแดง จำนวน 3 จุด มีกล้องได้รับความเสียหาย จำนวน 5 ตัว รายละเอียดดังนี้

 – บริเวณสี่แยกปากู หมู่ที่ 3 ตำบลปากู จำนวน 2 ตัว

 – บริเวณแยกแลแวะ หมู่ที่ 2 ตำบลตะโละแมะนา จำนวน 2 ตัว

 – บริเวณสามแยกบือจะ หมู่ที่ 4 ตำบลพิเทน จำนวน 1 ตัว

 3. พื้นที่ อำเภอยะหริ่ง จำนวน 2 จุด มีกล้องได้รับความเสียหาย จำนวน 3 ตัว รายละเอียดดังนี้

 – บริเวณหน้าป้อมชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านเก่า บ้านยือริง หมู่ที่ 4 ตำบลตันหยงดาลอ จำนวน 1 ตัว

 – บริเวณบ้านตำมะสู หมู่ที่ 3 ตำบลตันหยงดาลอ จำนวน 2 ตัว

4. พื้นที่ อำเภอมายอ จำนวน 4 จุด มีกล้องได้รับความเสียหาย จำนวน 5 ตัว รายละเอียดดังนี้

 – บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านกระเสาะ หมู่ที่ 3 ตำบลกระเสาะ จำนวน 1 ตัว

 – บริเวณสี่แยกบือเระ หมู่ที่ 5 ตำบลกระเสาะ จำนวน 1 ตัว

 – บริเวณเสาไฟฟ้าริมถนนทางหลวงหมายเลข 42 บ้านราวอ หมู่ที่ 4 ตำบลกระหวะ จำนวน 2 ตัว

 – บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านเมืองยอน หมู่ที่ 2 ตำบลลุโบะยิไร จำนวน 1 ตัว

ปัจจุบันเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนเพื่อหาผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายต่อไป รายละเอียดเพิ่มเติมเมื่อมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทุกท่านได้รับทราบโดยเร็ว

เหตุการณ์นี้ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่กลุ่มคนร้าย มีความพยายามทำลายระบบสาธารณูปโภคของรัฐ เช่น เสาไฟฟ้า, เสาโทรศัพท์, ถนน, สะพาน, หรือแม้กระทั่งกล้อง CCTV ที่ช่วยเป็นหูเป็นตาสอดส่องดูแลพื้นที่ เมื่อเกิดเหตุก็สามารถนำมาให้เป็นหลักฐานในการสืบสวน สอบสวน จับกุมคนร้าย เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายได้ จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน ร่วมติดตั้งกล้อง CCTV หรือกล้องวงจรปิด ในบริเวณพื้นที่บ้านเรือน หรือรอบๆ บ้านของท่านเอง เพื่อร่วมสร้างสังคมตาสัปปะรดให้เกิดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่าทุกการกระทำของกลุ่มขบวนการหรือกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในพื้นที่ ล้วนส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยตรง ไม่ว่าจะกระทบต่อความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนหรือกระทบต่อเศรษฐกิจในพื้นที่้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ช่วยสอดส่องในพื้นที่ของตนเอง หากผู้ใดพบเบาะแส หรือพบวัตถุต้องสงสัย รวมถึงบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โทร 061-1732999 หรือเบอร์สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง