วันอังคาร, 12 สิงหาคม 2568

รอง มทภ.4 ย้ำทุกภารกิจต้องรัดกุม ไม่ประมาท นำหลักการ ทฤษฎี ประยุกต์การปฏิบัติให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และใช้ความชำนาญพื้นที่ให้เกิดการปฏิบัติแม่นยำเป็นรูปธรรม ร่วมนำพาสันติสุขสู่ชายแดนใต้ให้มั่นคง ยั่งยืน

วันนี้ ( 11 สิงหาคม 2568 ) เวลา 10.30 น. พลตรี วรเดช เดชรักษา รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมผู้แทนฝ่ายอำนวยการของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ลงพื้นที่กองบังคับการ หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมช่วยส่วนรวม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 ตำบลวังพญา อำเภอรามัน จังหวัดยะลา เพื่อติดตามการปฏิบัติภารกิจ รับทราบสถานการณ์ พร้อมมอบนโยบายการปฏิบัติให้รัดกุม รอบคอบ และมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยมี พันเอก หาญพล เพชรม่วง ผู้บังคับกองกำลังทหารพรานจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ พันเอก จตุพร ธานีพัฒน์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 พร้อมด้วยผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 , ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 , ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 47 และกำลังพลร่วมรับทราบนโยบายการปฏิบัติภารกิจ

โดย พันเอก จตุพร ธานีพัฒน์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 เปิดเผยที่ผ่านมาได้บังคับใช้กฎหมายห้วงเดือนตุลาคมถึงปัจจุบันรวม 32 ครั้ง สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 32 คน และออกหมายจับตามกฎหมาย ป.วิอาญาทั้งหมด 10 คน มี คดีที่น่าสนใจปัจจุบันทั้งหมด 3 คดี จนนำมาซึ่งติดตามตัวผู้ต้องสงสัยมาดำเนินการซักถามขยายผลทราบถึงเครือข่ายของพื้นที่ ตำบลบันนังสตา จังหวัดยะลา ตลอดจนสามารถขยายผลเหตุยิงนายกเทศมนตรีตำบลรือเสาะ มีผู้ร่วมขบวนการให้การยอมรับผ่านการฝึกงานและมีผู้ร่วมสมาชิก 20 คน ได้รับสั่งการจากแกนนำกลุ่มขบวนการซึ่งอาศัยอยู่ในประเทศมาเลเซีย ใช้เส้นทางผ่านด่านศุลกากรตากใบไปยังด่านศุลกากรเป็งกาลันกูโบในรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ถูกต้องตามกฎหมายด้วยหนังสือผ่านแดน (Border Pass) หวังสร้างสถานการณ์ โดยเฉพาะการบ่มเพาะผ่านสื่อสังคมออนไลน์

โอกาสนี้ พลตรี วรเดช เดชรักษา ย้ำผู้บังคับการกรมทหารพราน ตลอดจนกำลังพลมีภารกิจหลักในการปฏิบัติการควบคุมพื้นที่บังคับใช้กฎหมาย นำตัวผู้ก่อเหตุรุนแรงเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ให้นำข้อผิดพลาดปรับเปลี่ยนการปฏิบัติให้รัดกุมยิ่งขึ้น และทุกภารกิจต้องรัดกุม ไม่ประมาท รอบคอบ นำหลักการและทฤษฎีจากผู้บังคับบัญชามอบหมายไปประยุกต์การปฏิบัติให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ใช้ความชำนาญในพื้นที่ให้เกิดการปฏิบัติให้แม่นยำเป็นรูปธรรม ซึ่งกลุ่มขบวนการก่อเหตุความรุนแรงและผู้เห็นต่างจากรัฐที่ไม่ประสงค์เห็นสันติสุข มุ่งสร้างสถานการณ์ลดทอนความเชื่อมั่นเจ้าหน้าที่ต่อเนื่อง กำชับกำลังพลต้องปฏิบัติหน้าที่เต็มขีดความสามารถ ให้ทั้ง 6 ศูนย์ซักถามของหน่วยงานความมั่นคงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ดำเนินการทุกขั้นตอนยึดหลักสิทธิมนุษยชนเคร่งครัด และประสานการทำงานอย่างประสานสอดคล้องใกล้ชิด ทำการขยายผลถึงการเชื่อมโยงผู้อยู่เบื้องหลังของเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและฟื้นฟูสันติสุขในพื้นที่ แต่สันติสุขนั้นไม่อาจเกิดขึ้นได้จากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพียงลำพัง เราจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนในความร่วมมืออย่างใกล้ชิดจากเจ้าหน้าที่ ผู้นำศาสนา และพี่น้องประชาชนคนในพื้นที่ด้วยความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ร่วมเสริมสร้างความมั่นคง ความสงบ และความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนชายแดนใต้

พร้อมกันนี้ พลตรี วรเดช เดชรักษา และคณะ ผู้บังคับบัญชา ยังได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ทหารหาญ พร้อมกล่าวชื่นชม และขอบคุณกำลังพลทุกนายที่มุ่งมั่น เสียสละปฏิบัติหน้าที่ อย่างสุดกำลังความสามารถ ย้ำพวกเราคือ “ทหารอาชีพ” ย่อมมีความรู้ ความชำนาญในวิชาชีพของตน พร้อมปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างเต็มที่ และเป็นที่พึ่งให้กับพี่น้องประชาชนในทุกโอกาส

ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน หากพบบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โทร 061-1732999 หรือเบอร์สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้ง ขอเรียนให้ทราบว่าผู้ให้การสนับสนุนผู้กระทำผิดด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น การนำพาซ่อนเร้น การให้การสนับสนุนที่พักพิง หรือการสนับสนุนเสบียงอาหาร จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ