วันจันทร์, 25 สิงหาคม 2568

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นประธานในพิธี รำลึกคุรุวีรชนชายแดนใต้ ครั้งที่ 15 เพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศล และรำลึกถึงครูและบุคลากรทางการศึกษาที่เสียชีวิต จากเหตุการณ์ความไม่สงบฯ

วันที่ 24 ส.ค.68 เวลา 10.00 น. ที่โรงแรมเซาท์เทิร์น วิว ปัตตานี อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยและคณะ ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธี เปิดงานรำลึกครูวีรชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งที่ 15 เพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศล และรำลึกถึงครูและบุคลากรทางการศึกษาที่เสียชีวิต จากเหตุการณ์ความไม่สงบฯ มี นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายอำเภอ ปลัดจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครูจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้บริหาร ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสังกัด จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูลและจังหวัดสงขลา เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก.

สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ เพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศล และรำลึกถึงครูและบุคลากรทางการศึกษาที่เสียชีวิต จากเหตุการณ์ความไม่สงบจังหวัดชายแดภาคใต้ รวมทั้งเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจ แก่ครูและบุคลากรทางการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเสริมสร้างความรักความสามัคคี ของครูและบุคลากรทางการศึกษา ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้.

นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวต้อนรับ “การจัดกิจกรรมในครั้งนี้เป็นกิจกรรมหนึ่งที่สร้างขวัญและกำลังใจ รวมทั้งการเยียวยาดูแลคนในจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งจังหวัดปัตตานี มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม มีวัดราษฎร์บูรณะ(วัดช้างไห้) มีมัสยิดกลาง มีศาลเจ้าเล่งจูเกียง(ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว) ฯลฯ เป็นศูนย์กลางยึดเหนี่ยวจิตใจ วันนี้เป็นวันที่มีความสำคัญมาก เชื่อมั่นว่าจะเป็นพลังจับมือนำพา สันติสุข ของผู้คนและลูกหลานในวันนี้ ยุติความรุนแรงในอนาต ต้องขอขอบคุณ ที่ได้สร้างความฮึกเหิม ที่อยู่ในสภาพแวดล้อม ให้เกียรติ เคารพซึ่งกันและกัน ในวิถีแห่งความหลากหลาย ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วน โดยเฉพาะมูลนิธิเดชอิศม์ ขาวทอง ซึ่งมีส่วนผลักดันเป็นอย่างมากให้เกิดงานในครั้งนี้ขึ้น”.

นายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครูจังหวัดชายแดนใต้ กล่าวรายงาน “นับแต่เกิดเหตุการณ์ปี 47 วันนี้เป็นมิติใหม่ ที่ยังไม่เคยมีมหาดไทยได้มาจัดงานให้ครูชายแดนใต้ ไม่เคยคิดว่าเหตุการณ์เลวร้ายจะเกิดขึ้นกับครู มาถึงวันนี้ 183 รายของคุรุวีรชนคุณครู ช่วงเกิดเหตุการณ์ไม่กล้าไปไหน ไม่กล้าใส่ชุดข้าราชการ จิตสำนึกที่เกิดขึ้น ในยามวิกฤต ต้องดูแลพี่น้องครู เห็นภาพเหตุการณ์สะเทือนใจหลายต่อหลายหน เคยเห็นน้ำตาของอดีตผู้ว่าท่านหนึ่ง ตอนประชุมร่วมกัน เพราะตอนนั้นท่านไม่เชื่อว่าการแก้ปัญหาชายแดนใต้ต้องใช้ฝ่ายปกครองนำคือกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ มาดำเนินการ ต้อง “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ถ้าครูชายแดนใต้ ไม่มีขวัญกำลังใจ ใจไม่นิ่งจริงๆ คงไม่มีวันนี้ เหตุผลในการจัดงานวันนี้เพื่อ 1.ทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับผู้ที่เสียชีวิต ซึ่งได้จัดมาแล้ว 15 ครั้ง พร้อมยอมรับว่าปีนี้ไม่มีเงินในการจัดกิจกรรมเลย ต้องขอขอบคุณ ท่านสุรินทร์ ปาลาเล่ ท่านยูนัยดี วาบา ท่านกำนันบาฮา รวมทั้งทุกภาคส่วนที่ได้ให้การนับสนุน ที่สำคัญคือมูลนิธิเดชอิศม์ ขาวทอง วันนี้ไม่มีการว่าจ้างออแกไนซ์ เป็นการร่วมแรงร่วมใจของครูที่ช่วยกันทำ ไม่มีเบี้ยเลี้ยง ไม่มีเบี้ยเดินทาง ฯลฯ ทุกท่านที่มามาด้วยใจ 2.อยากให้ทุกภาคส่วนได้เห็นว่าครูใต้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีพื้นที่เพื่อการศึกษา หากชายแดนใต้ไม่มีการศึกษาเชื่อว่าไม่มีทางแก้ปัญหาได้ 3.เพื่อให้เห็นว่าครูมีความสามัคคี แม้ว่าสถานการณ์บางครั้งดูเหมือนจะสงบนิ่ง และทุกครั้งที่มีระเบิด มีการยิงกัน ครูทุกท่านก็หวาดหวั่น ผวา แต่ก็ยังทำหน้าที่โดยไม่ย่อท้อ 4.เพื่อให้เห็นว่าครูชายแดนใต้ได้ผ่านวิกฤตที่เลวร้ายของชีวิตมา ได้เห็นครูถูกยิง แล้วโดนเผาทั้งเป็นหรือเหตุการณ์อื่นๆ ฯลฯ ภาพเหล่านี้อยู่ในใจตลอดมา การจัดงานวันนี้ไม่ได้คิดว่าจะไปย้อนเอามาเป็นประเด็นความแตกแยก แต่คิดว่าเป็นการยกย่องให้กับผู้เสียสละจำเป็นต้องมี และขอขอบคุณทุกอย่างที่ผ่านมา ต่อสู้มา20 ปี ขอยืนยันว่า ครูจังหวัดชายแดนใต้เป็นองค์กรที่มีพลัง ขอทำหน้าที่ครู ด้วยวิญญูชนให้สมกับคำว่าครูใต้รักกัน ตนยังเชื่อว่าพลังการศึกษาคือการขับเคลื่อนประเทศชาติ ถ้าประเทศไหนที่การศึกษาล่มสลาย ความหายนะจะเกิดขึ้นในอนาคต”

นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยกล่าวว่า “ได้เข้าใจถึงความยากลำบากของการทำงานของครูและบุคลากรทางการศึกษาในพื้นที่ ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ตนเองได้เฝ้ามองและติดตามมาโดยตลอด ไม่เคยเห็นการใช้ความรุนแรงหรือใช้อาวุธที่ไหน แล้วมาต่อรองแล้วให้จบ ตนมีความเชื่อว่าการแก้ปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ วิธีการแก้ปัญหาคือ 1.ต้องนำด้วยการศึกษา การศึกษาต้องทั่วถึงและเท่าเทียม 2.หลังจากนั้นต้องด้วยเศรษฐกิจ ลูกหลานพี่น้องมีงานทำ มีความมั่นคง จากนั้น3.ความยุติธรรม คนที่มีกำลังมากกว่า คนที่มีโอกาสมากกว่า ต้องเข้าใจคนที่ด้อยโอกาสกว่า โดย 3 อย่างนี้ถ้าผู้นำทุกระดับ เอาใจเข้าไป เอาความจริงใจเข้าไป แล้วทุ่มเท เชื่อว่าไม่นานต้องแก้ได้ ผมมีความตั้งใจอย่างมากที่มารวมพลังกับพี่น้องมาช่วยแก้ปัญหา และจะต้องมานอนในพื้นที่กับพี่น้อง ผมเชื่อว่าพี่น้องต้องอยากมีสันติสุข อย่าว่าแต่มนุษย์เลยครับ แม้แต่สัตว์ถ้าไม่ได้รับความยุติธรรม มันก็รับไม่ได้ ผมเชื่อว่า 3 อย่างที่ผมเสนอจะแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้ได้ เรามานับหนึ่งกันใหม่ เรานับกันมานานมากแล้ว แต่มานับหนึ่งใหม่ร่วมกับผมดู จากนั้นได้พูดถึงภารกิจความรับผิดชอบในสองกรมคือกรมที่ดินและกรมการปกครองท้องถิ่น”