วันจันทร์, 18 สิงหาคม 2568

รัฐ เดินหน้าสร้างสมานฉันท์ ร่วมงาน ‘ซอลาวาต มาฮับบะห์ นบี สร้างกำลังใจ สร้างสันติสุข’ ส่งพลังใจครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่ชายแดนใต้

วันที่ 17 สิงหาคม 2568 เวลา 13.30 น. ณ หอประชุมสิริสวัสดิธร สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดงาน “ซอลาวาต มาฮับบะห์ นบี สร้างกำลังใจ สร้างสันติสุข” เพื่อเสริมสร้างขวัญกำลังใจแก่ครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายในงานมี พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4, นายอรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี, พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.), นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ตลอดจนผู้แทนหน่วยงานราชการและภาคส่วนต่างๆ ในพื้นที่เข้าร่วม โดยมีประชาชนและครอบครัวผู้สูญเสียชาวไทยมุสลิมเข้าร่วมกว่า 2,000 คน

กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อบรรเทาจิตใจและตอกย้ำความสำคัญของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขในพื้นที่ โดยมีการเปิดเผยสถิติความสูญเสียตลอด 22 ปี (พ.ศ. 2547–2568) พบว่าเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบที่ผ่านการรับรองสามฝ่ายรวม 10,059 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตรวม 5,989 คน แบ่งเป็น ศาสนาอิสลาม 3,133 คน ศาสนาพุทธ 2,849 คน และศาสนาคริสต์ 7 คน ส่วนผู้บาดเจ็บมีจำนวน 13,445 คน แบ่งเป็น ศาสนาพุทธ 8,792 คน ศาสนาอิสลาม 4,645 คน และศาสนาคริสต์ 8 คน

โดยช่วงที่มีความรุนแรงสูงสุดคือปี 2550 เกิดเหตุ 1,407 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 892 คน และบาดเจ็บ 1,551 คน ขณะที่สถานการณ์ในระยะหลังมีแนวโน้มลดลง โดยในปี 2568 (มกราคม–สิงหาคม) เกิดเหตุ 93 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 38 คน และบาดเจ็บ 310 คนตัวเลขและเสียงสะท้อนดังกล่าว ชี้ให้เห็นว่าความรุนแรงตลอดกว่า 22 ปี ส่งผลกระทบต่อชีวิตผู้คนทุกศาสนาอย่างลึกซึ้ง ครอบครัวทั้งชาวพุทธและมุสลิมต่างต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปอย่างมิอาจทดแทนได้ การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ จึงถือเป็นความพยายามสร้างพื้นที่แห่งความเข้าใจ ความเมตตา และการสมานฉันท์ระหว่างศาสนา เพื่อร่วมกันเดินหน้าสู่สันติสุขที่ยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

ในโอกาสนี้ ผู้ได้รับการช่วยเหลือรายหนึ่งได้กล่าวแสดงความรู้สึกว่า “ดิฉันขอขอบคุณภาครัฐที่ได้ให้ความช่วยเหลือและเยียวยาอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด การได้รับการสนับสนุนครั้งนี้ทำให้ดิฉันสามารถนำไปใช้เป็นค่าเล่าเรียน และจัดซื้ออุปกรณ์การเรียน ซึ่งช่วยแบ่งเบาภาระของคุณแม่ได้เป็นอย่างมาก ถือเป็นโอกาสที่มีคุณค่าและมีความหมายต่อชีวิตการเรียนของดิฉัน ตลอดเส้นทางการศึกษา ดิฉันมีคุณแม่และน้องเป็นกำลังใจสำคัญ แม้จะขาดพ่อไป แต่ดิฉันก็เชื่อว่าพ่อยังคงอยู่เคียงข้างและเป็นแรงใจเสมอ ถึงแม้บางครั้งจะรู้สึกว่ายังไม่เก่งพอหรือต้องเจออุปสรรค แต่สิ่งเหล่านี้กลับทำให้ดิฉันมีเป้าหมายที่ชัดเจน ทั้งในด้านการเรียน ความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว รวมถึงอนาคตในการทำงาน และที่สำคัญคือการมีความสุขในชีวิต สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ให้ความสำคัญกับประชาชนอย่างแท้จริงจากใจจริงของดิฉันค่ะ”

ภายหลังเสร็จสิ้นกิจกรรม พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้มอบของที่ระลึกแก่ครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและยืนยันถึงความมุ่งมั่นของภาครัฐในการเคียงข้างประชาชนต่อไป