วันเสาร์, 13 กันยายน 2568

รับสารภาพแล้ว!! พร้อมพาเจ้าหน้าที่ชี้จุดซ่อนวัตถุพยานจากเหตุลอบวางระเบิดในพื้นที่ จ.นราธิวาส

จากการดำเนินการขยายผลตามกรรมวิธีซักของศูนย์ซักถาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 โดยดำเนินการซักถามนายลูกมัน (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ซึ่งถูกควบคุมตัวเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2568 ผู้ต้องสงสัยที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุลอบวางระเบิดแสวงเครื่องประกอบในรถยนต์เก๋งบริเวณหน้าฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบลศาลาใหม่ ในพื้นที่บ้านโคกมะเฟือง หมู่ที่ 1 ตำบลศาลาใหม่ อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งจากการซักถามเพิ่มเติมนายลูกมัน (สงวนนามสกุล) ยอมรับสารภาพว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุดังกล่าว และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หลายเหตุการณ์ นอกจากนี้ได้นำวัตถุพยานไปหลบซ่อนในพื้นที่ตำบลบองอ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส จำนวน 2 แห่ง

ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2568 เวลา 10.00 น. หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมประจำจังหวัดนราธิวาส ร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45, ศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่ 10 รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรระแงะ ได้นำตัวนายลูกมัน (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องสงสัยชี้จุดที่ซ่อนวัตถุพยานเพิ่มเติมทั้ง 2 จุด ประกอบด้วย จุดที่ 1 บริเวณบ้านกลูโฆ (บ้านย่อย-ลาแป) หมู่ที่ 2 ตำบลบองอ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส จากการตรวจสอบพบจอบขุดตั้งอยู่บริเวณคูน้ำข้างหลุม และไม้ซึ่งทำการปักไว้เป็นเครื่องหมาย ส่วนจุดที่ 2 ซึ่งห่างจากจุดที่ 1 ประมาณ 310 เมตร จากการตรวจสอบพบถังสีฟ้าฝังไว้ใต้ดินภายในถังมีวัตถุพยานต่าง ๆ ประกอบด้วย กระสุนปืน ขนาด 5.56 มิลลิเมตรจำนวนหนึ่ง, กระสุนปืน ขนาด 7.62 มิลลิเมตร จำนวน 46 นัด, ข้อต่อสายกระสุนปืนขนาด 7.62 มิลลิเมตรจำนวนหนึ่ง, ซองกระสุนปืนขนาด 5.56 มิลลิเมตร บรรจุกระสุน 30 นัด จำนวน 5 ซอง, กระเป๋าใส่ซองกระสุน จำนวน 3 ซอง, ระเบิดแสวงเครื่องจำนวน 1 ลูก, เข็มขัดยุทธวิธี จำนวน 1 เส้น, สายสะพายปืน จำนวน 1 เส้น, น้ำมันเครื่องจำนวน 1 ขวด และฝาถังสีฟ้า

เจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมวัตถุพยานทั้งหมดเพื่อนำไปตรวจพิสูจน์ตามกระบวนการ และภายหลังเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (EOD) ได้ดำเนินการทำลายระเบิดแสวงเครื่องเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น หากมีรายละเอียดเพิ่มเติมจะแจ้งให้ทราบต่อไป

โดยการดำเนินดังกล่าวเป็นไปตามขั้นตอนของกระบวนการตามกฎหมาย ซึ่งรวมถึงการรวบรวมพยานหลักฐาน การสอบสวน และการซักถามผู้ต้องหา ดำเนินการภายใต้หลักนิติธรรม ความเป็นธรรม และความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ เพื่อให้เกิดความยุติธรรมแก่ทุกฝ่าย

กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน หากพบบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรง แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โทร 061-1732999 หรือเบอร์สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งขอเรียนให้ทราบว่าผู้ให้การสนับสนุนผู้กระทำผิดด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การนำพาซ่อนเร้น การให้การสนับสนุนที่พักพิง หรือการสนับสนุนเสบียงอาหาร จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ