วันอาทิตย์, 3 สิงหาคม 2568

วิ่งหนีเจ้าหน้าที่ ล้มเอง บาดเจ็บ ญาติร้อง กสม. กล่าวหา เจ้าหน้าที่ซ้อมทรมาน

เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เวลา 04.30 น. เจ้าหน้าที่ หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมปัตตานี ได้สืบทราบว่ามีผู้ก่อเหตุรุนแรงเข้ามาหลบซ่อนในบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ หมู่ที่ 3 ตำบลน้ำบ่อ อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี จึงได้สนธิกำลังเข้าทำการบังคับใช้กฎหมายต่อบุคคลต้องสงสัย ในระหว่างนั้นมีผู้ซึ่งหลบซ่อนอยู่ในบ้านได้วิ่งหลบหนีออกมา เจ้าหน้าที่จึงได้วิ่งไล่ติดตามเป็นระยะทางประมาณ 150 เมตร บุคคลต้องสงสัยจึงได้เสียหลักล้มลง เจ้าหน้าที่จึงสามารถควบคุมตัวไว้ได้ ทราบชื่อต่อมาคือ นายนรินทร์ (สงวนนามสกุล) ตรวจสอบร่างกายขั้นต้น พบรอยถลอกที่บริเวณหัวเข่าซึ่งเกิดจากการวิ่งหลบหนีเจ้าหน้าที่ในยามวิกาล จากนั้นจึงได้นำตัวนายนรินทร์ฯ ไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจภูธรปะนาเระ และส่งตัวไปดำเนินการตรวจร่างกายเบื้องต้นที่โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร ผลปรากฎว่ามีรอยถลอกเล็กน้อยตามร่างกายดังที่ได้กล่าวมา ก่อนจะส่งตัวเพื่อดำเนินการซักถามเพิ่มเติมที่ศูนย์ซักถาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43

 ต่อมาเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ได้มีญาติของนายนรินทร์ฯ ดำเนินการร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ว่า เจ้าหน้าที่ได้ทำร้ายร่างกาย และซ้อมทรมาน นายนรินทร์ฯ ในระหว่างควบคุมตัว จนได้รับบาดเจ็บตามร่างกายหลายแห่ง

 ทั้งนี้จากเหตุการณ์ดังกล่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอสร้างความเข้าใจต่อสาธารณชนถึงการร้องเรียนดังกล่าวว่า เป็นการกล่าวหาที่เกินกว่าความเป็นจริง เนื่องจากในการปฏิบัติเจ้าหน้าที่ที่ร่วมปฏิบัติงานทุกฝ่าย ต่างเห็นเป็นประจักษ์พยานว่า นายนรินทร์ฯ ได้วิ่งหลบหนีเจ้าหน้าที่ออกจากบ้านท่ามกลางความมืด และเกิดสะดุดล้ม จนทำให้เกิดบาดแผลขีดข่วนตามร่างกายหลายแห่ง สอดคล้องกับข้อมูลที่ นายนรินทร์ฯ ได้ให้ไว้แก่แพทย์ผู้ตรวจร่างกายโรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหารในขั้นต้น

โดยในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทราบกันเป็นอย่างดีว่า เป็นพื้นที่ซึ่งมีความอ่อนไหวต่อการรับรู้และความรู้สึกของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะในเรื่องของการบังคับใช้กฎหมาย จึงต้องเพิ่มความละเอียดรอบคอบในการปฏิบัติงาน และกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนในพื้นที่ให้น้อยที่สุด รวมทั้งขอให้ทุกท่านได้ใช้วิจารณญาณในการับรู้ข่าวสาร โดยขอให้ตรวจสอบความจริงให้รอบด้าน และรัดกุมก่อนที่จะตัดสินใจเชื่อ และส่งต่อ เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเครื่องมือของสื่อและบุคคลที่พยายามบิดเบือนสร้างเงื่อนไขในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้