วันพฤหัสบดี, 25 เมษายน 2567

สกสค. 14 จังหวัดภาคใต้ประกาศเจตจำนงต่อต้านการทุจริต “Zero Tolerance คนไทยไม่ทนต่อการทุจริต”

สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา หรือ สกสค. ประกาศเจตจำนงต่อต้านการทุจริต 14 จังหวัดภาคใต้ เปิดการประชุมพร้อมบรรยายพิเศษในการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพผู้ปฏิบัติงาน ช.พ.ค. – ช.พ.ส.(บูรณาการ) ภาคใต้ ยืนยันทำงานด้วยความโปร่งใสเพื่อสวัสดิการและสวัสดิภาพครู

ที่โรงแรมต้นอ้อยแกรนด์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา ประชุมพร้อมบรรยายพิเศษในการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพผู้ปฏิบัติงาน ช.พ.ค. – ช.พ.ส. (บูรณาการ) 14 จังหวัดภาคใต้ เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงาน ช.พ.ค. – ช.พ.ส. ของสำนักงาน สกสค. จังหวัดทางภาคใต้ ทั้ง 14 จังหวัด แลกเปลี่ยนประเด็นของปัญหาและแนวทางแก้ไขการปฏิบัติงาน ช.พ.ค. – ช.พ.ส. และงานที่เกี่ยวข้องกับสำนักงาน เป็นการสร้างเครือข่ายการทำงานเป็นทีม ร่วมกันพัฒนาระบบการทำงานของกิจการ ช.พ.ค. – ช.พ.ส. ให้โปร่งใส ทันสมัย และมีประสิทธิภาพ โดยมี ผู้อำนวยการสำนักงาน สกสค. จังหวัดภาคใต้ และพนักงานเจ้าหน้าที่ร่วมประชุมในการจัดประชุมดังกล่าว นายวีระพงษ์ ทองผา รองเลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. นำคณะผู้บริหาร

สำนักงานคณะกรรมการ สกสค. และผู้เข้าประชุมร่วมประกาศเจตจำนงการต่อต้านการทุจริต “องค์กรแห่งความโปร่งใสต่อต้านการทุจริต” ภายใต้แนวคิด “Zero Tolerance คนไทยไม่ทนต่อการทุจริต” เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน รวมทั้งกระตุ้นจิตสำนึก ให้คณะผู้บริหาร พนักงาน เจ้าหน้าที่ไม่ยอมรับและไม่ทนต่อการทุจริต ร่วมกันป้องกัน ปราบปราม ต่อต้านการทุจริต และผลประโยชน์ทับซ้อน อันจะนำไปสู่การเป็นองค์กรที่มีความโปร่งใสและเป็นที่ยอมรับต่อไป สำหรับปัญหาข้อข้องใจของการบริหารเงิน 49 ของสำนักงาน มีการดำเนินการฌาปนกิจๆ ด้วยความโปร่งใส มั่นใจไม่มีเงินทอน ในส่วนของเงินที่หักไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการกิจการฌาปนกิจสงเคราะห์ ร้อยละ 4 ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่หนึ่ง ร้อยละ 20 เป็นเงินสะสมเก็บไว้เพื่อสมาชิกไม่สามารถนำไปใช้ได้ เป็นทุนสำรองความมั่นคงให้แก่สมาชิก กรณีเกิดเหตุการณ์ ที่ไม่คาดคิด และมีผลต่อความมั่นคงของสมาชิก การนำไปใช้จ่ายจะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ช.พ.ค. – ช.พ.ส. แล้วแต่กรณี และส่วนที่สอง ร้อยละ 80 เป็นค่าใช้จ่ายของสำนักงานคณะกรรมการ สกสค. ซึ่งเงินส่วนนี้จะถูกจัดสรรสมทบงบประมาณรายจ่ายประจำปีของสำนักงานคณะกรรมการ สกสค. ได้แก่ การจัดสรรเพื่อจัดสวัสดิการ สวัสดิภาพให้แก่ครูและบุคลากรทางการศึกษา ผ่านโครงการต่าง ๆ อาทิ โครงการครูช่วยครู (ครูอาสาดูแลครูป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ โครงการดูแลครูไทย วัยเกษียณ ซึ่งมีศูนย์ครูผู้สูงอายุอยู่ในทุกจังหวัด โครงการยกย่องเชิดชูเกียรติครู (รางวัลพระพฤหัสบดี) เงินเดือนพนักงานเจ้าหน้าที่ ค่าวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ในทุกขั้นตอนของการบริหารเงิน ช.พ.ค. – ช.พ.ส. มีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ ประกาศให้สมาชิกและผู้สนใจ เข้าดูได้ และไม่มีเงินทอนเข้ากระเป๋าใครทั้งสิ้น

ในส่วนของปัญหาหลายโครงการหดหายไป ครูที่รอคอยความต้องการโดยเฉพาะ สกสค.ที่ลงไปช่วยครูมาตลอด การดูแลงบประมาณจัดการ การทำโครงการต่อเนื่องเป็นความสืบเนื่องที่บรรดาครูรอคอย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและบอร์ด ต้องเข้าถึง เข้าใจ จะได้ช่วยพัฒนาโครงการไปสู่เป้าหมาย ซึ่งไม่ควรไปกักกันกับข้อกฎหมาย ซึ่งในส่วนของจังหวัดชายแดนภาคใต้ โครงการหลายโครงการกำบังถูกยกเลิก เพราะงบประมาณที่ค่อนข้างจำกัด บรรดาครูอยากให้บอร์ดเข้าใจตัวของ สกสค.ก่อน ความสืบเนื่องการดูแลครูในสถานการณ์ทุกข์ยาก ปัญหาข้อข้องใจของการบริหารเงิน ของสำนักงานยืนยันดำเนินการด้วยความโปร่งใส มั่นใจไม่มีเงินทอนในส่วนของเงินที่หักไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินกิจการสามารถตรวจสอบได้ สามารถเข้าไปดูได้ และไม่มีเงินทอนเข้ากระเป๋าใครทั้งสิ้น