วันจันทร์, 20 พฤษภาคม 2567

“สานสัมพันธ์ ไทยพุทธ – มุสลิม จชต.” ประจำปี 2567 เพื่อสร้างสัมพันธ์อันดีแก่กลุ่มมวลชน ณ จ.กาญจนบุรี

วันนี้ (7 พฤษภาคม 2567) เวลา 10.00 น. ที่ท่าอากาศยานปัตตานี อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี พันเอก ปองเชษฐ์ พูนช่วย ผู้อำนวยการสำนักมวลชนและกิจการพิเศษ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เป็นประธานร่วมส่งคณะมวลชนที่เข้าร่วมโครงการ “สานสัมพันธ์ไทยพุทธ มุสลิม จชต.” ประจำปี 2567 เดินทางไปดำเนินกิจกรรมที่จังหวัดกาญจนบุรี ระหว่างวันที่ 7-11 พฤษภาคม 2567 จำนวนกว่า 70 คน

พันเอก ปองเชษฐ์ พูนช่วย ผู้อำนวยการสำนักมวลชนและกิจการพิเศษ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า “กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริม การอยู่ร่วมกันภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง มุ่งเน้นการดำเนินการขับเคลื่อนให้ชุมชน 2 วิถี เรียนรู้ และยอมรับการอยู่ร่วมกัน ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจึงเป็นที่มาของการจัดกิจกรรมศึกษาสังคมพหุวัฒนธรรมนอกพื้นที่ ณ จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อสร้างความสามัคคี ความรักใคร่กลมเกลียว และเพื่อเป็นการตอบแทนพี่น้องประชาชน เป็นกำลังสำคัญในการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ลดช่องว่างและสร้างความเข้าใจให้เกิดขึ้นในสังคม ซึ่งจะเห็นได้ว่า หน่วยได้คัดเลือกพี่น้องที่มีทั้งไทยพุทธและไทยมุสลิม เข้าร่วมโครงการพร้อมกันและได้ไปเรียนรู้ สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมที่หลากหลาย หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกท่านจะนำประสบการณ์ที่ได้รับจากการเข้าร่วมกิจกรรมมาปรับใช้ในพื้นที่และช่วยกันสร้างสภาวะแวดล้อม เพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมอย่างจริงจัง เพื่อความสงบสุขของบ้านเมืองต่อไป”

สำหรับกิจกรรม “โครงการสานสัมพันธ์ไทยพุทธ มุสลิมจังหวัดชายแดนภาคใต้” ที่จัดขึ้นในครั้งนี้ พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้กรุณาอนุมัติให้สำนักมวลชนและกิจการพิเศษ ดำเนินการจัดขึ้น ในระหว่างวันที่ 7 – 11 พฤษภาคม 2567 เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีและสร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่มมวลชน ผู้นำชุมชน ทั้งไทยพุทธ และมุสลิม , ศึกษาสังคมพหุวัฒนธรรมชายแดนไทย – พม่า , เรียนรู้ประวัติศาสตร์และกิจกรรมจิตอาสา ณ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งมีวัฒนธรรมที่หลากหลาย มีความเข้มแข็ง ประชาชนหลากหลายเชื้อชาติ สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข ซึ่งปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ มีความใกล้เคียงกับพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถนำมาถ่ายทอดให้กับประชาชนในพื้นที่ เพื่อสร้างความสามัคคี ความรักใคร่กลมเกลียวของพี่น้องเครือข่ายมวลชนทั้งพุทธ มุสลิม และยังมีกิจกรรมส่งเสริมการแต่งกายตามอัตลักษณ์ท้องถิ่นให้พี่น้องต่างพื้นที่ได้เห็นถึงความงดงามของชายแดนใต้ ตามนโยบายของท่านแม่ทัพภาคที่ 4 อีกด้วย