
วันนี้ (21 พฤษภาคม 2568) พลตรี วรเดช เดชรักษา รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม เติมกำลังใจให้กับน้องคนเล็กของกองทัพบก ทหารกองประจำการ ผลัดที่ 1 ประจำปี 2568 พร้อมตรวจสอบสภาพความพร้อมของหน่วยฝึกทหารใหม่ เพื่อเน้นย้ำให้หน่วยฝึกปฏิบัติตามมาตรฐานการฝึกของกองทัพบก และนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก รวมไปถึงแนวทางของกรมยุทธศึกษาทหารบก เพื่อมุ่งสร้างทหารกองประจำการที่มีระเบียบวินัย เข้มแข็ง พร้อมปฏิบัติภารกิจเพื่อชาติ ในทุกด้านอย่างมีประสิทธิภาพ

โดยในเวลา 09.10 น. รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้เดินทางไปยังค่ายลพบุรีราเมศวร์ ตำบลเกาะสะบ้า อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา เพื่อเข้าตรวจเยี่ยมหน่วยฝึกทหารใหม่จำนวน 2 หน่วย ประกอบด้วย หน่วยฝึกทหารใหม่ กองพันซ่อมบำรุงกรมสนับสนุน กองพลทหารราบที่ 15 มีทหารใหม่ที่เข้ารับการฝึกจำนวน 67 นาย และ หน่วยฝึกทหารใหม่กองพันเสนารักษ์ กรมสนับสนุน กองพลทหารราบที่ 15 มีทหารใหม่ที่เข้ารับการฝึกจำนวน 78 นาย

ซึ่งทั้งสองหน่วยล้วนมีบทบาทสำคัญในการฝึกอบรมทหารกองประจำการให้มีความรู้ ความสามารถ และความพร้อมในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นระเบียบวินัย การปฏิบัติทางทหาร ตลอดจนการปลูกฝังอุดมการณ์รักชาติ เพื่อให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพตามบทบาทของหน่วยสนับสนุนของกองทัพบก โดยมี พันเอก อรรตชัย ประสพบุญ ผู้บังคับการกรมสนับสนุน กองพลทหารราบที่ 15, พันเอก ถนอมพงษ์ เรืองจันทร์ รองผู้บังการกรมสนับสนุน กองพลทหารราบที่ 15 และ พันโท ณัฐเศรษฐ สกุลหงษ์ ผู้อำนวยการฝึกหน่วยฝึกทหารใหม่ พันซ่อมบำรุงกรมสนับสนุน กองพลทหารราบที่ 15 ตลอดจนน้องทหารใหม่ร่วมให้การต้อนรับด้วยความอบอุ่น
จากนั้น เวลา 12.10 น. พลตรี วรเดช เดชรักษา รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อำนวยการรักษาษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้เดินทางต่อไปยัง ค่ายมหาจักรีสิรินธร ตำบลท่าประดู่ อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา ได้เข้าตรวจเยี่ยม หน่วยฝึกทหารใหม่ กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 5 โดยปัจจุบันมีทหารใหม่เข้ารับการฝึกจำนวน 114 นาย ซึ่งอยู่ระหว่างการฝึกภาคพื้นฐานตามหลักสูตรที่กำหนดไว้ โดยมุ่งเน้นทั้งด้านทักษะทางทหาร วินัย การฝึกความแข็งแกร่งทางร่างกายและจิตใจ ตลอดจนการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของทหารในปัจจุบัน โดยมี พันโท นพรัตน์ มหัตเสน ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 5 พร้อมด้วยครูฝึก, ผู้ช่วยครูฝึก ตลอดจนทหารใหม่ให้การต้อนรับ

ในการตรวจเยี่ยมครั้งนี้ พลตรี วรเดช เดชรักษา รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้กล่าวเน้นย้ำถึงนโยบายสำคัญของผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งให้ความสำคัญกับการฝึกทหารใหม่ให้ได้มาตรฐาน มีคุณภาพ และพร้อมปฏิบัติหน้าที่ในทุกสภาพแวดล้อมอย่างมีวินัยและความภาคภูมิใจในความเป็นทหารมืออาชีพ

ในขณะเดียวกัน ท่านยังได้สะท้อนถึงความห่วงใยจากแม่ทัพภาคที่ 4 ที่ฝากมาอย่างชัดเจนว่า “ทหารใหม่ทุกนายคือครอบครัวของเรา คือน้องคนเล็กของกองทัพบก” ซึ่งต้องได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม เพื่อให้สามารถปรับตัวและเติบโตได้อย่างมั่นคงในชีวิตการเป็นทหาร

รองแม่ทัพภาคที่ 4 ได้กำชับผู้บังคับบัญชาและครูฝึกทุกระดับให้ยึดมั่นในบทบาทการเป็นผู้นำที่ดี เป็นครูที่มีเมตตาต่อศิษย์ นั่นคือน้องทหารใหม่ทุกคน รวมไปถึงเป็นแบบอย่างทั้งในด้านระเบียบวินัย ความเสียสละ และความอดทน โดยเฉพาะการเข้าใจธรรมชาติของทหารใหม่ที่ยังอยู่ในช่วงการปรับตัวจากชีวิตพลเรือนสู่การเป็นทหาร
นอกจากนี้ ยังเน้นแนวทางการดูแลแบบครอบคลุมทุกมิติ ที่ไม่เพียงมุ่งเน้นเฉพาะด้านการฝึกทางยุทธวิธีเท่านั้น แต่รวมถึงการดูแลสุขภาวะร่างกาย จิตใจ ความเป็นอยู่ ที่หลับที่นอน อาหารการกิน และการสร้างบรรยากาศแห่งความอบอุ่นภายในหน่วยฝึก เพื่อให้ทหารใหม่ทุกนายรู้สึกว่ากองทัพคือครอบครัว ที่พร้อมจะหล่อหลอมให้พวกเขาเป็นทั้งรั้วของชาติที่เข้มแข็งและพลเมืองที่ดีของสังคม
เสียงจากทหารใหม่ “พลทหารแม็ก” สะท้อนพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงและความมุ่งมั่นในชีวิต
ด้าน พลทหาร นฤเบศ รัตนโกสม หรือ “น้องแม็ก” หนุ่มวัย 25 ปี ที่สมัครใจเข้ารับราชการทหารกองประจำการ เปิดเผยถึงความรู้สึกหลังผ่านการฝึกมาแล้ว 21 วันว่า สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจนคือความมีระเบียบวินัย การตรงต่อเวลา และสามารถปรับตัวเข้ากับเพื่อน ๆ ได้ดีขึ้น

“ก่อนเข้ามาฝึก ผมเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูง ชอบอยู่เงียบ ๆ คนเดียวในห้อง ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาของวัยรุ่น แต่พอได้เข้ามาในระบบของการฝึก ทำให้ผมได้เรียนรู้ว่าการอยู่ร่วมกันกับเพื่อน ๆ คือสิ่งสำคัญ การสื่อสาร การทำงานเป็นทีม การเข้าอกเข้าใจผู้อื่น และการมีวินัยคือสิ่งที่เราต้องมี ไม่ใช่แค่เพื่อผ่านการฝึก แต่เพื่อนำไปใช้ในชีวิตจริงด้วย” น้องแม็กกล่าว
จากการใช้ชีวิตในหน่วยฝึก น้องแม็กเล่าว่า เริ่มเห็นคุณค่าในตัวเองมากขึ้น กล้าที่จะออกจากพื้นที่ปลอดภัยของตนเอง และกล้าเผชิญหน้ากับความเปลี่ยนแปลงอย่างมั่นใจ พร้อมวางแผนอนาคต โดยตั้งเป้าหมายว่า หลังจากปลดประจำการ จะสอบเข้าเป็นนักเรียนนายสิบทหารบก เพื่อเดินหน้าในสายอาชีพทหารอย่างเต็มตัว

“ผมรู้สึกภูมิใจมากที่สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง ไม่ใช่แค่เรื่องร่างกาย แต่รวมถึงจิตใจด้วย ผมเชื่อว่าทุกอย่างที่ได้เรียนรู้ในช่วงเวลานี้จะกลายเป็นพื้นฐานสำคัญของชีวิตผมต่อจากนี้” พลทหาร นฤเบศ กล่าวทิ้งด้วยแววตาแห่งความมุ่งมั่น