วันพุธ, 18 มิถุนายน 2568

แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ในนราธิวาส เน้นปฏิบัติเชิงรุก บังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มผู้ก่อเหตุอย่างเด็ดขาด

วันที่ 18 มิถุนายน 2568 เวลา 10.30 น. ที่ห้องประชุมกรมทหารพรานที่ 46 ตำบลกะลุวอเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมคณะ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์เหตุการณ์คดีสำคัญในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานกองทัพบก นาวิกโยธินกองทัพเรือ ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และภาคประชาชนในพื้นที่

แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เน้นย้ำถึงนโยบายสำคัญในการ บังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง โดยยึดหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด พร้อมเดินหน้าปฏิบัติการเชิงรุกทั้งด้านข่าวกรองและการปฏิบัติทางทหาร เพื่อสกัดกั้นความพยายามในการก่อเหตุโดยเฉพาะเขตชายแดน พื้นที่ป่าเขา และพื้นที่เป้าหมายอ่อนแอ ที่กลุ่มผู้ก่อเหตุยังคงเคลื่อนไหวและพยายามก่อเหตุรุนแรงอย่างต่อเนื่อง จากการตรวจสอบของฝ่ายความมั่นคงพบว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงยังคงเคลื่อนไหวในพื้นที่ Support Site โดยอาศัยภูมิประเทศที่ติดป่าภูเขาเป็นช่องทางหลบหนี และได้รับการสนับสนุนจากผู้หลงผิดบางรายในพื้นที่ ซึ่งถือว่ามีความผิดตามกฎหมายเช่นกัน

แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวเน้นว่า “เจ้าหน้าที่ทุกนายต้องใช้บทเรียนจากอดีตมาเสริมประสิทธิภาพในปัจจุบัน ปรับรูปแบบการลาดตระเวนและปฏิบัติการให้เข้มข้นยิ่งขึ้น แต่ต้องไม่ประมาทและให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของกำลังพล พร้อมขอความร่วมมือจากผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนา และประชาชน ช่วยกันสอดส่องดูแล และไม่ให้การสนับสนุนผู้กระทำผิด ทั้งการให้ที่พักพิง แหล่งหลบซ่อน หรือจัดหาเสบียง ซึ่งมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189” จึงขอความร่วมมือมายังประชาชนร่วมแจ้งเบาะแสหากพบเห็นความผิดปกติหรือบุคคลต้องสงสัยมายังเจ้าหน้าที่รัฐ หรือแม่ทัพภาคที่ 4 ได้โดยตรง ที่เบอร์ 061-1732999 เพื่อให้การรักษาความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นไปอย่างยั่งยืน และปลอดภัยสำหรับทุกคน.

แม่ทัพภาคที่ 4 ยังได้ส่งสารให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ทุกนายในการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความท้าทาย โดยย้ำว่า “แม้จะยากลำบาก แต่ขอให้ยึดมั่นในยุทธศาสตร์การเป็นคนดี มีความรับผิดชอบ เข้าใจหน้าที่ เพราะนั่นคือหนทางสู่ความสุขและประสิทธิภาพในการทำงานเพื่อสันติสุขของประชาชน”