วันศุกร์, 8 สิงหาคม 2568

แม่ทัพภาคที่ 4 ให้สัมภาษณ์พิเศษต่อคณะสื่อมาเลเซีย ประเด็น “นโยบายความมั่นคงต่อการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้”

 เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2568 เวลา 08.00 น. ณ สำนักงานประสานงานชายแดนไทย–มาเลเซีย ค่ายเสนาณรงค์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ให้การต้อนรับคณะสื่อมวลชนจากสำนักข่าว Bernama ประเทศมาเลเซียอย่างอบอุ่น พร้อมให้สัมภาษณ์พิเศษในประเด็น “นโยบายความมั่นคงต่อการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้” โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องและร่วมกันขับเคลื่อนสันติภาพในพื้นที่

พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนฯ มาเลเซียว่า “แม้ในอดีตกาลจะเคยเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ ไม่ว่าจะเป็นความต้องการแบ่งแยกดินแดน ความต้องการยึดการปกครอง โดยกลุ่มหลักในปัจจุบันคือ BRN กลุ่มแนวร่วมที่ต้องการแบ่งแยกดินแดนที่เคลื่อนไหวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ปัจจุบันทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายทหาร ฝ่ายตำรวจ ฝ่ายปกครอง และภาคประชาสังคม ได้ร่วมมือกันอย่างจริงจังในการดูแลความสงบเรียบร้อย โดยยึดหลักการบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม โปร่งใส และตรวจสอบได้ โดย 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เคยอยู่ร่วมกันอย่างปกติสุข แต่มีบางกลุ่มพยายามบิดเบือนประวัติศาสตร์ ศาสนา และเชื้อชาติ เพื่อสร้างความแตกแยก พร้อมย้ำว่า แม้เราจะเป็นทหาร แต่พื้นที่นี้ไม่ใช่สมรภูมิ เราไม่มองว่าผู้ก่อเหตุเป็นศัตรู แต่คือประชาชนคนไทยคนหนึ่ง ซึ่งจำเป็นต้องใช้กฎหมายควบคุมอย่างยุติธรรม

แม่ทัพภาคที่ 4 ยังได้กล่าวถึงความพยายามของกลุ่มขบวนการที่ลักลอบแทรกซึมเข้าในสถานศึกษา ไม่ว่าจะเป็นทั้งโรงเรียนภาครัฐ ภาคเอกชน ปอเนาะ และตาดีกา เพื่อบ่มเพาะแนวคิดการใช้ความรุนแรง โดยใช้เรื่องเชื้อชาติ ศาสนา และประวัติศาสตร์เป็นเครื่องมือในการบิดเบือนความจริง พร้อมชี้ให้เห็นว่าการแก้ปัญหาระยะยาวต้องอาศัย การป้องกันความคิดการใช้ความรุนแรงตั้งแต่ต้นทาง โดยเฉพาะในด้านการศึกษาและโซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นช่องทางหลักของการบ่มเพาะความรุนแรง

ในช่วงท้าย แม่ทัพภาคที่ 4 ได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลมาเลเซียที่ให้ความร่วมมือในกระบวนการพูดคุยสันติสุขอย่างต่อเนื่อง พร้อมเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการร่วมมือกันควบคุมพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะกรณีการหลบซ่อนหรือเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนการที่แทรกซึมเข้าไปในประเทศมาเลเซีย บุคคลที่กระทำผิดแล้วหลบหนีไปยังมาเลเซียนั้น ไม่ใช่ผู้ที่ถูกรังแกจากเจ้าหน้าที่รัฐ แต่เป็นผู้กระทำผิดจริง ซึ่งเราหวังให้สื่อมาเลเซียมีความเข้าใจในประเด็นนี้ และช่วยกันประชาสัมพันธ์ข้อมูลที่ถูกต้อง การพบปะในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความเข้าใจระหว่างไทย-มาเลเซีย และเป็นโอกาสให้สื่อมวลชนประเทศเพื่อนบ้านได้รับทราบข้อเท็จจริง และเห็นถึงความพยายามของทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย