วันจันทร์, 15 กันยายน 2568

ศาลจังหวัดนราธิวาส พิพากษา “จำคุก 28 ปี” ผู้กระทำผิดคดีลอบวางระเบิดและก่อเหตุรุนแรงหลายจุดในพื้นที่ อ.ตากใบ และ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2566

เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 ศาลจังหวัดนราธิวาส มีคำพิพากษาในคดีความมั่นคง โดยตัดสินลงโทษ “จำคุก 28 ปี” นายมะรอมือลี (สงวนนามสกุล) จากเหตุลอบวางระเบิดและก่อเหตุรุนแรงพร้อมกันหลายจุดในพื้นที่ อำเภอตากใบ และ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2566

โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงเวลาประมาณ 01.30 น. ของวันที่ 21 ตุลาคม 2566 โดยกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงได้วางแผนและดำเนินการก่อเหตุรุนแรงพร้อมกัน จำนวน 7 จุด ในพื้นที่ ในเขต อำเภอตากใบ และ อำเภอสุไหงโก-ลกของจังหวัดนราธิวาส ประกอบด้วย ลอบวางระเบิดหน้าร้านทองทองแสงเจริญซึ่งอยู่ในอาคารโรงแรมตาบาพลาซ่า เขตเทศบาลอำเภอตากใบ แรงระเบิดส่งผลให้ประตูสแตนเลส หลังคา และฝ้าเพดานได้รับความเสียหาย รวมถึงอาคารฝั่งตรงข้ามได้รับผลกระทบ, ผู้ก่อเหตุใช้ระเบิดไปป์บอมบ์ขว้างเข้าใส่จุดตรวจตาบาจากหลายทิศทาง พร้อมใช้อาวุธปืนยิงถล่ม ทำให้เกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ที่อยู่ภายในจุดตรวจ โดยเจ้าหน้าที่บาดเจ็บเล็กน้อยจากแรงระเบิด, ลอบวางระเบิดเสาไฟฟ้าใกล้แฟลตข้าราชการบ้านหัวคลอง, ลอบวางระเบิดเสาไฟฟ้าในพื้นที่ตำบลมูโนะ, ลอบวางระเบิดเสาไฟฟ้าถนนสายตากใบ – สุไหงโก-ลก ช่วงบริเวณรอยต่อบ้านสะหริ่ง หมู่ที่ 1 กับบ้านบอฆอ หมู่ที่ 2 ตำบลโฆษิต และ พื้นที่บ้านกัวลอมาแต หมู่ที่ 4 ตำบลมูโนะ แรงระเบิดส่งผลให้เสาไฟฟ้าหักโค่นเป็นจำนวนมาก บางจุดเสาไฟล้มขวางถนน ส่งผลกระทบต่อการจราจร และความปลอดภัยของประชาชน

จากการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ ส่งผลให้สามารถระบุตัวและดำเนินคดีผู้ก่อเหตุได้ในเวลาต่อมา โดยศาลจังหวัดนราธิวาสมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 ให้ลงโทษ “จำคุก 28 ปี” นายมะรอมือลี (สงวนนามสกุล) จากความผิดฐานก่อการร้าย, พยายามฆ่าเจ้าหน้าที่รัฐ, ทำให้เสียทรัพย์ และมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย

เหตุการณ์ในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความพยายามของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่ต้องการบ่อนทำลายความสงบสุขของสังคม แต่ด้วยความร่วมมือจากประชาชนและการปฏิบัติงานอย่างเต็มความสามารถของเจ้าหน้าที่ ทำให้สามารถคลี่คลายสถานการณ์และนำผู้กระทำผิดมารับโทษตามกระบวนการยุติธรรมได้

ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน หากพบบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรง แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โทร 061-1732999 หรือเบอร์สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งขอเรียนให้ทราบว่าผู้ให้การสนับสนุนผู้กระทำผิดด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การนำพาซ่อนเร้น การให้การสนับสนุนที่พักพิง หรือการสนับสนุนเสบียงอาหาร จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ “อย่าหลงเชื่อหรือร่วมมือกับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง แม้จะไม่ได้ลงมือก่อเหตุด้วยตนเอง หากมีส่วนร่วมในการวางแผนหรือสนับสนุน ก็มีโทษตามกฎหมายเช่นเดียวกัน”