วันอังคาร, 23 กันยายน 2568

“บุญหลัง ส่งตายาย” รองเลขาธิการ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เป็นประธานในพิธีทำบุญวันสารทเดือนสิบ สืบสานวิถีกตัญญู ณ วัดมุจลินทวาปีวิหาร (วัดตุยง) จ.ปัตตานี

ถ้าจะพูดถึงความกตัญญู ความผูกพัน และรากเหง้าของลูกหลานชาวใต้ วันสารทเดือนสิบจะเป็นภาพสะท้อนถึงความกตัญญู และวัฒนธรรมที่ดีงาม ที่ถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นได้อย่างชัดเจน

วันนี้ (22 กันยายน 2568) เวลา 09.30 น. ที่ วัดมุจลินทวาปีวิหาร หรือวัดตุยง ตำบลตุยง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี พันเอก อนุชา โนนคู่เขตโขง รองเลขาธิการ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เป็น ประธานฝ่ายฆราวาสในพิธีทำบุญวันสารทเดือนสิบ (วันส่งตายาย) เพื่อร่วมอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นของพี่น้องประชาชนภาคใต้ของไทย ให้คงอยู่สืบไปในรุ่นลูกรุ่นหลาน โดยมี คณะผู้บังคับบัญชา ทหาร ตำรวจ ตลอดจนพี่น้องพุทธศาสนิกชนในพื้นที่เข้าร่วมในพิธีด้วยความอบอุ่น

โดยพิธีทำบุญ วันสารทเดือนสิบ (วันส่งตายายหรือวันส่งเปรต) ประจำปี 2568 ของวัดมุจลินทวาปีวิหาร จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดปัตตานี และคณะกรรมการวัด มีวัตถุประสงค์เพื่อให้พุทธศาสนิกชนและเยาวชนได้ซึมซับวิถีพุทธและความกตัญญูที่สืบทอดจากบรรพบุรุษ ภายในงานมีการประกวดหมรับ, ประเพณีแข่งขันขึ้นร้านเปรต รวมถึงการละเล่นพื้นบ้านการชกมวยตับจากการที่หาดูได้ยาก ถ่ายทอดบรรยากาศแห่งความสุขและวิถีชีวิตดั้งเดิมอย่างงดงาม

นางผ่อง ลายพรหม ชาวบ้านในพื้นที่ เปิดเผยความรู้สึกว่า “วันนี้เป็นอีกวันที่ดีใจมากที่ได้พาลูกหลานมาร่วมทำบุญ เพื่อระลึกถึงปู่ย่าตายายและบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว วันส่งเปรตถือเป็นกิจกรรมที่ทุกคนมีความสุข สนุก ได้พบปะพูดคุยกัน หลังจากที่ต้องแยกย้ายไปทำงานต่างถิ่น ที่สำคัญก่อนมาทำบุญที่วัด พี่น้องทุกคนจะต้องเตรียมขนมท้องถิ่นที่ใช้ในพิธี ไม่ว่าจะเป็นข้าวต้ม ขนมเจาะหู ขนมลา ขนมเบี้ย รวมถึงกับข้าวกับปลา เพื่อจะได้ร่วมทำบุญด้วยกัน และยังทำให้มีช่วงเวลาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา ช่วยกันเตรียมของและทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน”

เกล็ดเพิ่มเติม ตามปฏิทินสุริยคติ สารทเดือนสิบตรงกับเดือนกันยายน–ตุลาคมของทุกปี แบ่งเป็น 2 ช่วง คือ วันแรม 1 ค่ำ เดือนสิบ หรือ วันรับตายาย (วันรับเปรต) และ วันแรม 15 ค่ำ เดือนสิบ หรือ วันส่งตายาย (วันส่งเปรต)