วันที่ 21 กันยายน 2568 เวลา 16.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ ไปมอบรางวัลถ้วยพระราชทานแก่ทีมเรือที่ชนะเลิศการแข่งขันเรือกอและ เรือยอกอง และเรือคชสีห์ ชิงถ้วยพระราชทานหน้าพระที่นั่ง ครั้งที่ 47 ประจำปี 2568 ณ บริเวณพลับพลาเฉลิมพระเกียรติ สิริราชสมบัติครบรอบ 50 ปี ริมเขื่อนท่าพระยาสาย แม่น้ำบางนรา อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งในงานของดีเมืองนรา ครั้งที่ 48
โดยมีการแสดงโชว์ ขบวนเรือบุปผชาติของหน่วยงานต่าง ๆ จำนวน 8 ลำ ซึ่งมีความวิจิตรสวยงาม แสดงออกถึงพระราชหฤทัยอันแน่วแน่ในการทรงงาน เพื่อสืบสาน รักษา และต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส
การแข่งขันเรือกอและ เรือยอกอง และเรือคชสีห์ ชิงถ้วยพระราชทานหน้าพระที่นั่ง ในปีนี้มีการแข่งขันทั้งสิ้น 3 ประเภท รวมทั้งสิ้น 58 ทีม ประกอบด้วย เรือกอและ 27 ทีม เรือยอกอง 13 ทีม และเรือคชสีห์ 18 ทีม และมีทีมเรือจาก สหพันธรัฐมาเลเซีย จำนวน 3 ทีม แข่งประเภทเรือคชสีห์ โดยทำการแข่งขัน ระหว่างวันที่ 18 – 21 กันยายน 2568
สำหรับผลการแข่งขันประเภท “เรือกอและ” รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ทีมฮังตุเวาะห์ (Hang Tuwah สังกัดอดุลกิจการค้า ประเภทเรือยอกอง รางวัลชนะเลิศ ชื่อเรือ ทม.ตากใบ สังกัดเทศบาลเมืองตากใบ และประเภทเรือคชสีห์ รางวัลชนะเลิศ ชื่อเรือ นรายูไนเต็ด บาย อัฟฟาน (Nara United By Affan) สังกัด บ. ดิน – ดี เซอร์วิส จก. (Hang Tuwah)
ทั้งนี้ จังหวัดนราธิวาส ได้จัดการแข่งขันเรือฯ เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2518 การแข่งขันครั้งนี้เป็นครั้งที่ 47 เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบิตร และเพื่อเทิดพระเกียรติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อพสกนิกรชาวไทย ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ที่เสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานมาประทับแรม ที่พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ เป็นประจำทุกปี และได้ทรงพระราชทานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อแก้ไขปัญหาฯ ยังความสงบสุขร่มเย็น แก่พสกนิกรชาวไทยโดยถ้วนหน้า ชาวนราธิวาสต่างตระหนักและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น และนอกจากการแข่งขันเรือฯ ยังเป็นการส่งเสริมศิลปะการต่อเรือกอและ พาหนะจำเป็นสำหรับการประกอบอาชีพของชาวประมง และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว สืบสาน อนุรักษ์ ประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป