แม่ทัพภาคที่ 4 มอบนโยบายขับเคลื่อนสันติสุขชายแดนใต้ ปี 2569 มุ่งสร้างความมั่นคงและพัฒนาทุกมิติ ภายใต้ยุทธศาสตร์พระราชทาน “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา”

วันนี้ (14 ตุลาคม 2568) เวลา 09:30 น. ที่สโมสรนายทหารสัญญาบัตร กองพลทหารราบที่ 15 ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี พลโท นรธิป โพยนอก แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นประธานมอบนโยบายการปฏิบัติงาน และแถลงแผนขับเคลื่อนการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปี 2569 โดยมีผู้บังคับบัญชาจากหน่วยขึ้นตรงกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เข้าร่วมรับมอบนโยบายอย่างพร้อมเพรียง

พลโท นรธิป โพยนอก แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้กล่าว แถลงนโยบายว่า “ก่อนอื่น ผมขอขอบคุณพี่น้องสื่อมวลชนทุกท่าน ที่ให้ความสนใจและร่วมติดตามแนวทางการขับเคลื่อนงานของกองทัพภาคที่ 4 และ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ในการดำเนินงานเสริมสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

การประชุมในวันนี้ เป็นการกำหนดทิศทางการทำงานร่วมกันของทุกหน่วย เพื่อให้การปฏิบัติภารกิจในปี 2569 มีความต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยสานต่อนโยบายเพื่อสันติสุข เสริมสร้างความต่อเนื่อง และดำเนินการขับเคลื่อนภารกิจด้านความมั่นคง ตลอดจนการพัฒนาทุกมิติในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใต้ ยุทธศาสตร์พระราชทาน “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างสันติสุขอย่างแท้จริง โดยมีพี่น้องประชาชนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนา และมีการบูรณาการประสานสอดคล้อง ตลอดจนความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มุ่งต่อยอดและสานต่อโครงการ ตลอดจนแนวนโยบายต่าง ๆ ที่ดำเนินอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อสร้างประโยชน์และความสุขให้กับพี่น้องประชาชน โดยสิ่งแรกที่จะเป็นสารตั้งต้น และเป็นพลังสำคัญที่จะทำให้เกิดสันติสุขอย่างยั่งยืน นั่นคือ ความสามัคคีของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะทหาร และตำรวจ ที่ปฏิบัติราชการในพื้นที่ มีความปรารถนาสูงสุด คือ การสร้าง ‘สันติสุขอย่างยั่งยืน’ ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญให้การพัฒนาในทุกมิติของจังหวัดชายแดนภาคใต้สามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง”

พลโท นรธิป โพยนอก แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “นอกจากนี้จะดำเนินการในเรื่อง การรักษาความปลอดภัยให้กับนักเรียน ครู พระภิกษุ และกลุ่มเปราะบาง ตลอดจนเส้นทางคมนาคมที่สำคัญ รวมถึงการสร้างการมีส่วนร่วมกับพี่น้องประชาชนและภาคประชาสังคม เพื่อให้ทุกการปฏิบัติดำเนินไปภายใต้กรอบของกฎหมายเดียวกันอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม พร้อมทั้งได้เน้นย้ำ ให้เพิ่มความเข้มงวดด้านการข่าว เพื่อป้องกันและสกัดกั้นการก่อเหตุรุนแรงในทุกมิติ รวมทั้งปรับปรุงแผนการรักษาความปลอดภัยของฐานปฏิบัติการ ให้มั่นคงปลอดภัยยิ่งขึ้น

ในขณะเดียวกัน ผมได้กำชับให้ทุกหน่วยดำเนินงานด้านการเมืองควบคู่ไปกับภารกิจทางทหาร โดยเฉพาะการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับประชาชน การคุ้มครองดูแลความปลอดภัยของพี่น้องในพื้นที่ และการประสานความร่วมมือ จากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคศาสนา ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อให้เกิดพลังร่วมในการขับเคลื่อนสู่สันติสุขอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ย้ำว่า “สิ่งสำคัญที่สุด คือ เราจะเดินหน้าทำงานอย่างเต็มกำลัง และทำให้ประชาชนรู้สึกปลอดภัย มีความเชื่อมั่นในเจ้าหน้าที่รัฐ และสามารถดำเนินชีวิต ได้อย่างปกติสุขในทุกพื้นที่ จึงเน้นให้ทุกหน่วยรักษามาตรฐานความพร้อมสูงสุด ทั้งในด้านกำลังพล ยุทโธปกรณ์ และการประสานงาน เพื่อให้สามารถตอบสนอง ต่อสถานการณ์ ได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ

ท้ายที่สุด แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้กล่าวขอบคุณทุกหน่วยงาน กำลังพล และประชาชนในพื้นที่ที่ให้ความร่วมมือมาโดยตลอด พร้อมย้ำว่า “ความร่วมมือของทุกภาคส่วน คือพลังสำคัญที่จะนำพาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เป็นพื้นที่ปลอดเหตุ ประชาชนปลอดภัยอย่างยั่งยืน”