วันนี้ (3 มิถุนายน 2568) เวลา 10.00 น. ที่กองร้อยทหารพรานที่ 4713 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 47 อำเภอยะหา จังหวัดยะลา พลตรี วรเดช เดชรักษา รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมด้วยผู้บังคับบัญชา , ผู้แทนฝ่ายอำนวยการของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจ ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่พร้อมมอบนโยบายในการปฏิบัติภารกิจให้มีประสิทธิภาพรัดกุม โดยมี พันเอก สุรศักร ทั่วด้าว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 47 และกำลังพลร่วมให้การต้อนรับ
ในการนี้ รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้นำเครื่องอุปโภค บริโภค พร้อมนำความห่วงใยผู้บังคับบัญชามายังกำลังพลทุกนาย ขอให้ทุกคน อดทน มีสติ ห้ามประมาท หลังพบผู้ก่อเหตุรุนแรงยังคงพยายามก่อเหตุสร้างสถานการณ์ต่อเจ้าหน้าที่รัฐและพี่น้องประชาชนกลุ่มเปราะบาง ย้ำหมั่นทบทวนความรู้ที่ได้รับการฝึกให้พร้อมปฏิบัติภารกิจอยู่เสมอ ทั้งการป้องกันตนเอง การป้องกันฐานปฏิบัติการ โดยเฉพาะการดูแลพื้นที่ให้ปลอดเหตุพี่น้องประชาชนปลอดภัย พร้อมระบุว่าในทุกภารกิจย่อมมีปัญหา และจะต้องมีการปรับปรุงแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น โดยผ่านผู้บังคับกองร้อย ซึ่งเป็นหัวใจหลักสำคัญของการขับเคลื่อนภารกิจในพื้นที่ เพราะกำลังพล คือ “เพื่อนร่วมชีวิต ต้องร่วมคิด ร่วมแก้ไขปัญหา” ให้ดียิ่งขึ้น ขอเป็นกำลังใจและชื่นชมกำลังพลทุกนายที่มุ่งมั่นเสียสละในการดูแลพื้นที่อย่างสุดกำลังความสามารถ ไม่ย่อท้อต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ยืนยันในฐานะหน่วยงานความมั่นคง พร้อมดูแลอำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชนอย่างดียิ่ง ขอหน่วยจัดทำคำสั่งยุทธการ ให้รัดกุม สมบูรณ์ ครอบคลุมในทุกการปฏิบัติ เพื่อส่งเสริมให้กำลังพลปฏิบัติหน้าที่อย่างมีทิศทางที่ชัดเจน กำลังพลทุกนายสามารถนำนโยบายของแม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 แปลงไปสู่การปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม มีเป้าหมายที่ชัดเจนเพื่อสร้างความมั่นคงในพื้นที่พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้นภายใต้ความร่วมมือของทุกภาคส่วน อย่างไรก็ตามอีกหนึ่งกลไกสำคัญของการดูแลพื้นที่คือการบูรณาการร่วมกันทุกภาคส่วน ด้วยการหลอมรวมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ทั้งทหาร ตำรวจ พลเรือน ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น ผู้นำศาสนา และภาคประชาชน ร่วมผสานกำลังเฝ้าพิทักษ์รักษาดูแลพี่น้องประชาชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และครอบคลุมทุกมิติ
ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้กระทำผิดเข้ามอบตัวเพื่อต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม โดยขอความร่วมมือไปยังพี่น้องประชาชน อย่าได้ให้การสนับสนุนผู้กระทำผิด ทั้งให้ที่พักพิง หลบซ่อน จัดหาเสบียง เพราะจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากพบบุคคลต้องสงสัยเคลื่อนไหวในพื้นที่ แจ้งได้ที่โทรศัพท์สายตรง แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โทร. 061-1732999 หรือเบอร์สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกเบาะแสทุกความเคลื่อนไหวที่พี่น้องประชาชนแจ้งเบาะแส ต่อเจ้าหน้าที่จะถูกปกปิดเป็นความลับอย่างแน่นอน
