
ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีความโชคดีในหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นศูนย์รวมจิตใจของพี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่า ที่ช่วยหล่อหลอมความสามัคคีและความผูกพันของคนในชาติ แม้จะอยู่ท่ามกลางความหลากหลายทางวัฒนธรรม ซึ่งสิ่งนี้นับเป็นต้นทุนสำคัญของสังคมพหุวัฒนธรรม ที่ควรได้รับการส่งเสริมอย่างเข้าใจและเคารพ เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุขและเกื้อกูลกันอย่างเช่นที่ผ่านมา
วันนี้ (5 มิถุนายน 2568) 15.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย พันโท พฤกษชาติ พูลพัฒนโยธิน หัวหน้าชุดควบคุมที่ 955 หน่วยเฉพาะกิจสันติสุข นำพี่น้องประชาชนไทยพุทธ – มุสลิม ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 50 คน ร่วมกิจกรรมเฉลิมพระชนมพรรษา เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 “สานสัมพันธ์ไทยพุทธ – มุสลิม จังหวัดชายแดนภาคใต้รักพระราชินี” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างอบอุ่น โดยในกิจกรรมประกอบด้วยการกล่าวถวายพระพรชัยมงคล ร่วมขับร้องบทเพลงสรรเสริญพระบารมี และบทเพลงสดุดีจอมราชา ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มเปี่ยมด้วยความรัก ความสามัคคี และความศรัทธาในสถาบันพระมหากษัตริย์ จากกลุ่มพี่น้องชาวไทยพุทธและมุสลิมที่ร่วมแสดงพลังอย่างอบอุ่นและกลมเกลียว
ในส่วนของกิจกรรมการศึกษาเรียนรู้สังคมพหุวัฒนธรรม ณ ประเทศมาเลเซียนั้น ในช่วงเช้าคณะฯได้เดินทางไปที่ถ้ำบาตู (Batu Caves) ตั้งอยู่ที่ รัฐเซอลาโงร์ (Selangor) ถ้ำศักดิ์สิทธิ์ของพี่น้องชาวฮินดูในมาเลเซีย ที่มีความโดดเด่นด้วยรูปหล่อจำลององค์พระขันธกุมาร ที่มีขนาดความสูงที่สุดในโลก ภายในยังประกอบด้วย ถ้ำเทวาลัย (Temple Cave) ซึ่งตั้งอยู่ในโพรงถ้ำธรรมชาติของภูเขาหินปูนที่มีอายุเก่าแก่ถึง 400 ล้านปี โอบล้อมด้วยความงดงามของธรรมชาติและสถาปัตยกรรมที่สะท้อนถึงความเชื่อทางศาสนาอย่างงดงาม
ศาสนสถานแห่งนี้ เป็นการสะท้อนของการเคารพในความแตกต่าง การเห็นความหลากหลายทางศาสนาในพื้นที่เดียวกัน สะท้อนถึงการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขภายใต้ความแตกต่าง ซึ่งเป็นหน้าหนังสือเรียนสำคัญที่สามารถนำกลับมาประยุกต์ใช้กับบริบทของจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้อย่างเหมาะสม
จากกนั้น คณะฯ ได้เดินทางไปยัง มัสยิดปุตราจายา หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ “มัสยิดสีชมพู” ซึ่งตั้งอยู่ ณ เมืองปุตราจายา ประเทศมาเลเซีย มัสยิดแห่งนี้สร้างขึ้นจากหินแกรนิตสีชมพูอ่อน อันเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น และสามารถรองรับผู้ศรัทธาในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาได้มากถึง 15,000 คน
ภายในมัสยิดตกแต่งด้วยลวดลายศิลปะอิสลามที่วิจิตรงดงาม มียอดโดมสูงถึง 116 เมตร เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของเมืองปุตราจายา โดยแรงบันดาลใจในการออกแบบมัสยิดแห่งนี้มาจาก มัสยิดชีคโอมาร์ ประเทศอิรัก สะท้อนอัตลักษณ์ ความศรัทธา และวัฒนธรรมของผู้คน ซึ่งสามารถเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ เข้าใจ และสร้างความเคารพในความหลากหลายได้อย่างลึกซึ้ง
ต่อมา คณะฯ ได้เดินทางไปยัง Harriston Boutique แบรนด์ช็อกโกแลตชื่อดังระดับเวิลด์คลาสของอาเซียน ที่เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของผู้ที่ชื่นชอบช็อกโกแลตและโกโก้ ภายในร้านมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ช็อกโกแลตหลากหลายรูปแบบให้เลือกซื้อเป็นของฝาก อีกทั้งยังเปิดพื้นที่เวิร์กช็อปให้ผู้เยี่ยมชมได้เรียนรู้กระบวนการแปรรูปช็อกโกแลตจากโกโก้ ซึ่งเป็นพืชท้องถิ่นที่รับซื้อจากเกษตรกรในประเทศ เพื่อนำไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง สร้างมูลค่าเพิ่มอย่างยั่งยืน ทำให้เห็นถึงการยกระดับสินค้าท้องถิ่นด้วยนวัตกรรมและการมีส่วนร่วมของชุมชน กลายเป็นกุญแจสำคัญสู่การพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างมั่นคง
ในช่วงค่ำ คณะฯ ได้ร่วมกิจกรรมถอดบทเรียนจากการร่วมโครงการ “สานสัมพันธ์ไทยพุทธ – มุสลิม จังหวัดชายแดนภาคใต้” ปีที่ 2 ณ ประเทศมาเลเซีย และกิจกรรมสันทนาการที่จากเจ้าหน้าที่ ชุดควบคุมที่ 955 หน่วยเฉพาะกิจสันติสุข ซึ่งมุ่งเน้นการเปิดพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ทำลายกำแพงน้ำแข็งที่กั้นกลางระหว่างกันภายใต้แนวคิด “เพราะเราคือพี่น้องกัน”
กิจกรรมประกอบด้วยการพูดคุยและรับชมสื่อประวัติศาสตร์ปัตตานี วิวัฒนาการความเป็นมาของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เล่าเรื่องผ่านประวัติศาสตร์และวิวัฒนาการชาติพันธุ์ในพื้นที่เพื่อให้เกิดความเข้าใจถึงที่มาและความหลากหลายของผู้คน ทั้งด้านศาสนา วัฒนธรรม และวิถีชีวิต เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง และส่งเสริมการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมอย่างเข้มแข็ง