การส่งเสริมการอยู่ร่วมกันภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง คือหนึ่งในนโยบายสำคัญของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ภายใต้การขับเคลื่อนของ พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ซึ่งมุ่งหวังให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้สามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข เคารพในความแตกต่าง และร่วมกันสร้างรากฐานแห่งความเข้าใจ อันจะนำไปสู่ความมั่นคงที่ยั่งยืนในอนาคต
เมื่อวันที่ 21 – 22 มิถุนายน 2568 ที่ โรงแรมเฟรนลี่เทล อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา คณะขับเคลื่อนการพูคคุยสันติสุขระดับพื้นที่ (คพท.) ร่วมกับ สำนักงานขับเคลื่อนการพูดคุยสันติสุขระดับพื้นที่ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ดำเนินโครงการ “PeaceLink Camp เชื่อมโยงใจเพื่อสันติสุข” เติมน้ำ เติมใจ ต้นกล้าปลายด้ามขวาน เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นในการอยู่ร่วมอย่างสันติสุขในสังคมพหุวัฒนธรรมจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีน้อง ๆ เยาวชนต้นกล้า ในพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ประกอบด้วย อำเภอจะนะ อำเภอเทพา อำเภอนาทวี และอำเภอสะบ้าย้อย เข้าร่วมโครงการ ซี่งในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนทีมวิทยากรจากชุดควบคุมทักษิณสัมพันธ์ และชุดควบคุมที่ 955 หน่วยเฉพาะกิจสันติสุข
สำหรับโครงการ “PeaceLink Camp เชื่อมโยงใจเพื่อสันติสุข” มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่มาจากหลากหลายวัฒนธรรม และส่งเสริมการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขในสังคมพหุวัฒนธรรมจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมไปถึงการปลูกฝังจิตสำนึกด้านการอยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ เห็นอกเห็นใจ และเคารพความแตกต่าง อีกทั้งเพื่อพัฒนาศักยภาพให้กับน้อง ๆ เยาวชนต้นกล้าในด้านการสื่อสาร การเล่าเรื่อง และการใช้สื่อออนไลน์ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก โดยประกอบกิจกรรมดังนี้
1. ส่งเสริมองค์ความรู้เรื่อง “ความเป็นมาพื้นที่ จชต. และการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม”
2. อบรมด้านการสื่อสาร การผลิตสื่อ และองค์ความรู้เกี่ยวกับสันติวิธี แก่เด็กและเยาวชน
3. การสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์สื่อเยาวชน Peace Link : เชื่อมโยงใจเพื่อสันติสุข
4. กิจกรรม “เสียงจากชายแดนใต้ : สิ่งที่ฉันจะทำอะไรเพื่อสันติสุขในชุมชน”
ภายในโครงการ น้อง ๆ เยาวชนต้นกล้า ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ต่างแสดงความสนใจและมีส่วนร่วมอย่างสนุกสนาน พร้อมทั้งสามารถผลิตสื่อได้อย่างมีคุณภาพ สะท้อนมุมมองที่สร้างสรรค์และเข้าใจบริบทของพื้นที่ซึ่งสามารถนำไปต่อยอดและขยายผลต่อได้ในฐานะ “นักครีเอเตอร์” เพื่อเป็นกระบอกเสียงสำคัญในการส่งเสริมความรัก ความเข้าใจ และการอยู่ร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ในสังคมพหุวัฒนธรรมจังหวัดชายแดนภาคใต้
