วันศุกร์, 8 สิงหาคม 2568

แม่ทัพภาคที่ 4 เข้าเยี่ยมให้กำลังใจ เจ้าหน้าที่ทหารพราน ร้อย.ทพ.4516 จากเหตุลอบวางระเบิด อ.ระแงะ จ.นราธิวาส

เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2568 เวลา 13.30 น. พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เดินทางเข้าเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหารพราน สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4516 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ณ โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส ได้เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบชื่อและจำนวนลอบวางระเบิด เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือน กองร้อยทหารพรานที่ 4516 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 ขณะออกปฏิบัติภารกิจเข้าพบปะพัฒนาสัมพันธ์บุคลากรครู / นักเรียน โรงเรียนตาดีกาบ้านบาโงสะโต ร่วมกับ ชุดสันติสุขที่ 402 หน่วยเฉพาะกิจสันติสุข ขณะเดินทางกลับมายังฐานปฏิบัติการ เหตุเกิดบริเวณทางโค้ง หมู่ที่ 7 บ้านบาโงสะโต ตำบลบาโงสะโต อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส แรงระเบิดที่เกิดขึ้นทำให้มีกำลังพลได้รับบาดเจ็บ

จากเหตุการณ์ดังกล่าว มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 นาย คือ

 อาสาสมัครทหารพราน อนุสรณ์ โนรี อายุ 35 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บ บริเวณข้อพับขาขวามีแผลฉกรรจ์ ขาซ้ายหัก และบริเวณลำตัวมีบาดแผลเล็กน้อย

 อาสาสมัครทหารพราน ศักดิ์ชัย ไกรแสงสิทธิ์ อายุ 41 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บ มีบาดแผลบริเวณข้อพับแขนขวา ซึ่งทั้งสองอาการรู้สึกตัวดีและสามารถพูดจาโต้ตอบได้

 โอกาสนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้นำกระเช้าเยี่ยมจาก พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก และเงินบำรุงขวัญมอบให้ผู้บาดเจ็บ พร้อมสอบถามเหตุการณ์และกล่าวชื่นชมในความกล้าหาญ เสียสละของกำลังพล และย้ำว่า รัฐบาลและผู้บังคับบัญชาทุกระดับพร้อมให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ทั้งเรื่องสิทธิ สวัสดิการ และการดูแลฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจ พร้อมกันนี้ ได้สั่งการให้หน่วยที่เกี่ยวข้องเร่งติดตามสถานการณ์ เพื่อนำผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนแจ้งเบาะแสผ่านสายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 โทร. 06-1173-2999 หรือเบอร์สายด่วน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าโทร. 1341 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งขอเรียนให้ทราบว่าผู้ให้การสนับสนุนผู้กระทำผิดด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น การนำพาซ่อนเร้น การให้การสนับสนุนที่พักพิง หรือการสนับสนุนเสบียงอาหาร จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยข้อมูลของท่านจะได้รับการปกปิดเป็นความลับ