วันอาทิตย์, 17 สิงหาคม 2568

ผนึกกำลังร่วมแถลงผลการปฏิบัติการ เปิดยุทธการ ‘NO Drugs NO Dealers’ ทลายเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ชายแดนใต้ สามารถยึดของกลางไอซ์ 900 กิโลกรัม และอายัดทรัพย์สินมูลค่า 20 ล้านบาท

 วันที่ 16 สิงหาคม 2568 ณ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4, พันตำรวจโท วรรณพงษ์คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส หน่วยงานส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวผลการปฏิบัติการจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามแผนปฏิบัติการ “NO Drugs NO Dealers” ภายใต้นโยบายรัฐบาลให้มีการปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง โดยให้ถือเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นแหล่งแพร่ระบาด เป็นจุดพักยา และเป็นเส้นทางลำเลียงไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า และสำนักงาน ป.ป.ส. ได้ระดมสรรพกำลังเพื่อขับเคลื่อนนโยบายในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังต่อเนื่อง และร่วมกันจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติด และดำเนินการยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำผิดในคดียาเสพติด 2 เครือข่าย ในพื้นที่ อำเภอตากใบ และอำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส สามารถยึดของกลางไอซ์ 900 กิโลกรัม และอายัดทรัพย์สินมูลค่า 20 ล้านบาท

สำหรับเครือข่ายที่ 1 : เมื่อวันที่ 14 ส.ค.68 เวลาประมาณ 03.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดขยายผลยาเสพติดและตรวจยึดทรัพย์สินตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ได้จับกุมนักค้ายาเสพติดรายสำคัญได้ในพื้นที่ บ้านซีโป หมู่ 3 ตำบลนานาค อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส จำนวน 1 ราย คือ นายจีรพงษ์ พันเพชร (1-67010-0128-77-0) อายุ 37 ปี ที่อยู่ 23 ม.6 ตำบลตะเบาะ อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมด้วยของกลาง จำนวน 4 รายการ ประกอบด้วย 1. ยาเสพติด (ไอซ์) จำนวน 900 กิโลกรัม 2. รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ Toyota Revo สีขาว ทะเบียน ผข 3124 ร้อยเอ็ด 3. โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Vivo v40 จำนวน 1 เครื่อง 4.โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Vivo Y04 จำนวน 1 เครื่อง โดยนายจีรพงษ์ ยอมรับว่าได้นำรถยนต์มาจอดไว้เพื่อรอให้บุคคลอื่นมารับช่วงต่อ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อจึงติดตามไปจนพบรถคันดังกล่าวจอดอยู่ห่างออกไป 4 กิโลเมตร และเมื่อนำตัวนายจีรพงษ์ ไปชี้จุดตรวจค้น ก็พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ซุกซ่อนในกระสอบจำนวน 30 กระสอบ รวมน้ำหนักประมาณ 900 กิโลกรัม ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 135 ล้านบาท นอกจากนี้ยังได้ยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องในคดีอีกมูลค่ากว่า 800,000 บาท

และเครือข่ายที่ 2 : เป็นการขยายผลจากการจับกุมผู้ต้องหา 3 คน พร้อมยาไอซ์ 615 กิโลกรัมในอำเภอสุไหงโก-ลก เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2568 เจ้าหน้าที่ได้ขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ร่วมขบวนการอีก 4 คน ซึ่งอยู่ระหว่างหลบหนี และได้เข้าตรวจค้นเพื่อยึดทรัพย์สินใน 5 เป้าหมายที่เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2568 ผลการตรวจค้นสามารถยึดทรัพย์สินได้ 13 รายการ เช่น ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 2 แปลง, รถยนต์ 4 คัน, อาวุธปืน 3 กระบอก และเจ็ตสกี 2 ลำ แม้จะไม่พบผู้ต้องหาตามหมายจับ แต่เจ้าหน้าที่จะยังคงสืบสวนและติดตามจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำลายเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ให้หมดสิ้นไป

พันตำรวจโท ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการบำบัดผู้ติดยาเสพติดว่า รัฐบาลเข้าใจดีถึงช่องว่างที่ผู้ติดยาอาจยังไม่พร้อมในการเข้ารับการบำบัดด้วยตนเอง ดังนั้น จึงกำหนดนโยบายให้ผู้ที่ต้องการเลิกยาเสพติด สามารถเข้ารับการบำบัดได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพราะถือว่าบุคคลเหล่านั้นมีเกียรติและมีความตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงตนเอง ในเรื่องนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะเข้ามาบูรณาการการทำงาน โดยมีแนวคิดที่จะให้แพทย์เข้ามามีส่วนร่วมในการบำบัดรักษาด้วย นอกจากนี้ ในระดับพื้นที่ ผู้นำท้องถิ่นควรช่วยกันผลักดันให้มีการนำผู้ติดยาเสพติดเข้าสู่กระบวนการบำบัด ซึ่งถือเป็นตัวชี้วัดสำคัญของความสำเร็จในการทำงาน พร้อมย้ำว่า รัฐควรสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการบำบัด เพื่อลดภาระของครอบครัว เพราะการที่ประเทศได้พลเมืองที่มีสุขภาพดีกลับคืนมา ถือเป็นกำไรของประเทศชาติ พร้อมระบุว่า แม้รัฐบาลจะมีความเมตตาต่อข้าราชการ แต่ก็จำเป็นต้องมีการประเมินผล หากพบว่าผู้นำในพื้นที่ใดยังคงปล่อยปละละเลย หรือทำงานได้ไม่เต็มที่ ก็ควรมีการพิจารณาโยกย้าย เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความตั้งใจและมุ่งมั่นเข้ามาทำงานแทน

 ด้าน พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้กล่าวชื่น การปฏิบัติงานร่วมกันของทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายตำรวจ ฝ่ายปกครอง ฝ่ายทหาร และ ปปส. ที่ได้การปฏิบัติการกับกลุ่มเครือข่ายยาเสพติด รวมถึงได้มีการขยายผลยึดทรัพย์จับได้จำนวนมหาศาล ปัญหายาเสพติดคือหนึ่งในปัญหาที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนและอยากได้รับการแก้ไขปัญหาเป็นลำดับต้นๆ ซึ่งที่ผ่านมากองอำนวยการในการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างต่อเนื่องและได้มีการ บูรณาการปฏิบัติงานร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลเป็นวาระแห่งชาติอย่างต่อเนื่อง

พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้กล่าวถึงความคืบหน้า ปฏิบัติการ “120 วัน วาระพืชกระท่อม” ซึ่งปัจจุบันทุกหมู่บ้านได้รวมพลังกันไม่เอาพืชกระท่อม โดย ศอ.บต.ได้มีการส่งเสริมสนับสนุนในทุกกิจกรรม โดยผ่านกลไก ฮูกุมปากัต (ธรรมนูญหมู่บ้าน 9 ดี) หากมีชุมชน หมู่บ้านไหนดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจังก็จะลงไปร่วมสนับสนุนในทุกมิติ หากดำเนินการ ครบ 120 วัน การดำเนินงานนี้ต้องขอบคุณพี่น้องประชาชนร่วมทำหน้าที่ตรงนี้ ทำให้ภาครัฐได้ปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็ง