วันที่ 17 สิงหาคม 2568 ชาวบ้านจากหลายอำเภอในจังหวัดสงขลา อาทิ เทพา สะบ้าย้อย นาทวี ระโนด ควนเนียง รัตภูมิ หาดใหญ่ และบางกล่ำ รวมตัวกันลุกขึ้นแสดงพลังในฐานะ “พลเมืองสงขลา” หลังต้องทนทุกข์จากสภาพถนนที่พังเสียหายยาวนานกว่า 10–20 ปี โดยแทบไม่ได้รับการแก้ไขที่ถาวร แม้จะร้องเรียนต่อผู้บริหารหลายชุดที่ผ่านมา แต่กลับได้เพียงการซ่อมชั่วคราวที่ไม่ต่างจาก “หยอดหลุมประวิงเวลา” จนเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ชาวบ้านสะท้อนเสียงตรงกันว่า ถนนเลี่ยงเมือง ถนนไปโรงพยาบาล และถนนสายหลักที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่เพียงเป็นหลุมบ่อและยุบตัวง่าย แต่ยังพรากชีวิตผู้คนไปแล้วหลายราย เช่น กรณีที่บ้านลุ่มอ้อย ต.ปริก อ.สะเดา เมื่อรถนักเรียนประสบอุบัติเหตุชนกับรถกระบะเพราะถนนชำรุด ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 3 ศพ สร้างความโศกเศร้าให้ทั้งชุมชน
นายประเสริฐ สุขจันทร์ ชาวบ้านอำเภอระโนด เผยว่า ถนนเลี่ยงเมืองในพื้นที่ตนเต็มไปด้วยหลุมบ่อและขาดไฟส่องสว่างจนเกิดอุบัติเหตุถี่ “ที่ผ่านมาเราเสนอให้ซ่อมเป็นถนนคอนกรีต แต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขที่ถาวร หาก อบจ. จะกู้เงินมาซ่อม เรามองว่าดีกว่าการปล่อยให้คนตายฟรีๆ บนถนนแบบนี้”
ไม่ต่างจากถนนสายบางเหรียง อ.ควนเนียง ที่เชื่อมต่อโรงพยาบาลบางกล่ำกับบ้านเกาะใหญ่ ระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร ซึ่งสร้างมากว่า 20 ปี ปัจจุบันดินบวมเป็นลูกระนาด ทำให้ผู้สัญจรล้มเจ็บบ่อยครั้ง โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนที่น้ำกัดเซาะจนถนนพังยับ
ภายใต้การนำของนายสุพิศ พิทักษ์ธรรม ผู้บริหาร อบจ.สงขลาชุดปัจจุบัน ได้มีแนวคิดกู้เงินกว่า 2,000 ล้านบาท เพื่อซ่อมและสร้างถนนใหม่ แต่กลับมีกลุ่มบางส่วนตั้งคำถามและโต้แย้งเสียงดัง ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ยืนยันว่า พวกเขาคือผู้ที่เดือดร้อนจริง ไม่ใช่เพียง “วาทกรรมบนโลกออนไลน์”
“ไม่มีใครอยากเป็นหนี้หรอกครับ แต่ถ้าเงินกู้ช่วยให้ลูกหลานเราเดินทางไปโรงเรียนได้อย่างปลอดภัย ช่วยให้เราพาแม่ที่ป่วยไปโรงพยาบาลทันเวลา เราก็พร้อมสนับสนุน” ชาวบ้านรายหนึ่งกล่าวด้วยน้ำตาคลอ
ทั้งนี้ มีรายงานว่าในวันพรุ่งนี้ เวลา 09.00 น. มวลชนจากหลายอำเภอจะรวมตัวกันที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เพื่อส่งกำลังใจให้กับนายสุพิศ พิทักษ์ธรรม ในการเดินหน้าแผนแก้ไขถนนที่ชาวสงขลารอคอยมานานกว่าทศวรรษ