ศูนย์ข่าวชาวบ้านนิวส์
Khawchawbannews

กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้

หน้า: 1 ... 6 7 [8] 9 10
71
เทศบาลเมืองคอหงส์ จัดอบรมให้ความรู้เพิ่มทักษะการดูแลผู้สูงอายุเพื่อให้การช่วยเหลือได้ทันท่วงที


เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม  2562  ณ ห้องประชุมเรารักสงขลา (อนุสรณ์กำนันเอี่ยม  ทวีรัตน์)เทศบาลเมืองคอหงส์ โดยนายฉลอง พัฒโน  รองนายกเทศมนตรีเมืองคอหงส์    ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการเพิ่มทักษะการประเมินกิจวัตรประจำวันของผู้สูงอายุเพื่อได้ให้การช่วยเหลือ ดูแลให้ทันท่วงที เหมาะสมกับบริบท การดูแลแต่ละประเภท เพื่อป้องกันภาวะพึ่งพิง ลดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถดำเนินชีวิตอย่างมีอิสระเท่าที่จะเป็นได้ โดยอยู่บนพื้นฐานการเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์  ซึ่งได้จัดอบรมให้ความรู้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการ


จากจำนวนประชากรและสัดส่วนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นของประเทศไทย โดยปัจจุบันมีจำนวนผู้สูงอายุเกิน 60 ปี ราว 10 ล้านคน โดยจำนวนและสัดส่วนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องร่วมกับการเปลี่ยนแปลงด้านระบาดวิทยาของการเจ็บป่วยของประชาชนจากโรคติดต่อแบบเฉียบพลันเป็นโรคติดต่อไม่เรื้อรัง นำมาซึ่งภาวะทุพพลภาพไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ต้องได้รับการดูแลแบบต่อเนื่อง ภาวะสุขภาพจากภาวการณ์เจ็บป่วยเรื้อรัง การประสบอุบัติเหตุความพิการต่าง ๆ ตลอดจนวัยผู้สูงอายุที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ในชีวิตประจำวัน การนอนติดบ้าน ติดเตียง ขาดการประเมินภาวะสุขภาพเพื่อการดูแล แม้กระทั่งขาดคนดูแล เพราะบุตรหลานต้องออกไปทำงานในช่วงกลางวัน เพื่อกระตุ้นส่งเสริมภาวะเศรษฐกิจในครัวเรือน   ในการนี้การมีส่วนร่วมในชุมชนเพื่อสอดส่องดูแลซึ่งกันและกัน โดยอาสาสมัคร จิตอาสา Care Giver ในชุมชนให้มีความรู้ และทักษะเชิงปฏิบัติการเป็นเรื่องจำเป็น เพื่อเพิ่มคุณภาพการดูแลโดยนำศักยภาพของคนในชุมชนให้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือและสนับสนุนการดูและเพื่อประโยชน์แก่เพื่อนมนุษย์และเป็นการสร้างภาคีเครือข่ายภาคประชาชนเพื่อความยั่งยืนของชุมชน 








72
องคมนตรี ลงพื้นที่ จ.ยะลา ติดตามความก้าวหน้าโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ ด้านผู้บริหาร ศอ.บต. น้อมนำพระราชปณิธาน สู่การปฏิบัติ ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนเป็นรูปธรรม


               วันที่ 24 กรกฎาคม 2562 นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรีและคณะ เดินทางปฏิบัติภารกิจในเขตพื้นที่จังหวัดยะลา เพื่อรับฟังการดำเนินงานในแต่ส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยร่วมรับฟังการบรรยายสรุปการพัฒนาของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ณ ห้องประชุมน้อมเกล้า ศอ.บต. ในประเด็นทิศทางการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และนำภาคใต้สู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการผลการขับเคลื่อนงานด้านการพัฒนาของ ศอ.บต. โดยมีพลเรือตรีสมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. คณะผู้บริหาร และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับ


พลเรือตรีสมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. ได้บรรยายผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหาทุกมิติในพื้นที่ตอนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการขยายผลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริว่า ในส่วนโครงการพัฒนาสังคมผู้ด้อยโอกาสและสาธารณสุขเชิงรุก ปี 2562 กลุ่มผู้สูงอายุ (ไร้ที่อยู่อาศัย) ได้รับการพัฒนาอาชีพและมีที่อยู่อาศัย จำนวน 780 คน คนพิการและผู้ป่วยติดเตียงได้รับการดูแลและฟื้นฟูสภาพ จำนวน 2,223 คน เด็กพิการเข้าถึงบริการทางสุขภาพ จำนวน 2,300 ครอบครัว เด็กพิการได้รับกายอุปกรณ์และเครื่องช่วยความพิการ คือ เก้าอี้สุขใจ สู่รองเท้าสั่งตัด จำนวน 195 คน และที่สำคัญในปีนี้ยังไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมจากโรคหัด และสามารถสร้างความเข้าใจการฉีดวัคซีนป้องกันโรคในเด็ก 0-5 ปี และต่ำกว่า 12 ปีได้คลอบคลุมทั้ง 3 จังหวัด


เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในส่วนรถสิริเวชยาน รถโมบายให้บริการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ จำนวน ๒ คันนั้น ในห้วงปี ๒๖๕๒ เครือข่ายบริการสุขภาพจังหวัดนราธิวาสและจังหวัดยะลา ออกให้บริการผู้ป่วยรวม ๒,๒๒๓ คน ซึ่งในปี ๒๕๖๓ ศอ.บต.ได้เสนอโครงการจัดทำรถโมบายเคลื่อนที่เพิ่มอีก ๓ คัน ให้ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดปัตตานี สงขลา และสตูล นอกจากนี้ ศอ.บต.ยังได้ขับเคลื่อนขยายผลการดำเนินงานโครงการครัวโรงเรียนสู่ครัวบ้าน ที่มุ่งเน้นให้ประชาชนในพื้นที่ลดสารเคมีในการทำการเกษตร และโรงเรียนมีอาหารกลางวันตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อสร้างนักเรียนต้นแบบที่สามารถนำความรู้ด้านการเกษตรจากโรงเรียนไปทำที่บ้านจนเกิดผลเป็นที่ประจักษ์ โดยในปี 2561-2562 มีนักเรียนสนใจเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 268 คน และในแต่ละปี ศอ.บต.ได้คัดเลือกนักเรียนที่มีคะแนนสูงสุด 10 ลำดับแรกนำเข้าเฝ้าและรับรางวัลจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราช เจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในคราวเสด็จเยือน ศอ.บต. ทุกเดือนกันยายนของทุกปี อีกทั้งยังมีโครงการอื่นๆ ที่ขับเคลื่อนให้เห็นเป็นรูปธรรมอีกหลายโครงการ อาทิ การจัดตั้งเครือข่ายนักกายภาพจิตอาสา ศูนย์ซ่อมบำรุงกายอุปกรณ์จังหวัดปัตตานี ศูนย์บริการคนพิการทั่วไป จำนวน 28 แห่ง ศูนย์กายอุปกรณ์มือเลื่อนล้อจังหวัดนราธิวาส และเครือข่ายอาสาพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นต้น


ภายหลังรับฟังผลการขับเคลื่อนงานของศอ.บต.แล้ว องคมนตรีและคณะได้เดินทางไปยังตำบลแม่หวาด อำเภอธารโต จังหวัดยะลา เพื่อติดตามผลการดำเนินงานโครงการชุมชนเข้มแข็งและร่มเย็น บ้านสันติ 2 ตามพระราชดำริสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร พร้อมเยี่ยมชมกิจกรรมส่งเสริมอาชีพและพัฒนาคุณภาพชีวิตการผลิตปลาส้ม  และจะเดินทางไปรับฟังบรรยายสรุปการดำเนินงานของอุทยานแห่งชาติบางลาง ในวันที่ 25 กรกฎาคม 2562 เป็นภารกิจต่อไป







73
มรภ.สงขลา จัดประกวดดนตรีไทย “ฝีไม้ลายเพลง” วงปี่พาทย์ไม้แข็ง ระดับมัธยม



                มรภ.สงขลา จัดประกวดดนตรีไทย “ฝีไม้ลายเพลง” ประเภทวงปี่พาทย์ไม้แข็งเครื่องคู่ ระดับมัธยมศึกษา วันที่ 1 สิงหาคม ศกนี้ ฉลอง 100 ปีแห่งการสถาปนามหาวิทยาลัย


                ผศ.ดร.ไชยวุธ โกศล คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) เปิดเผยว่า หลักสูตรศิลปกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาดนตรีไทย คณะศิลปกรรมศาสตร์ มรภ.สงขลา จัดประกวดดนตรีไทย ระดับมัธยมศึกษา “ฝีไม้ลายเพลง” ประเภทวงปี่พาทย์ไม้แข็งเครื่องคู่ ในวันที่ 1 สิงหาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 09.00 เป็นต้นไป ณ ห้อง 58-109 คณะศิลปกรรมศาสตร์ มรภ.สงขลา ฉลอง 100 ปีแห่งการสถาปนามหาวิทยาลัย ชิงรางวัลชนะเลิศ 4,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง 3,000 บาท รางวัลชนะเลิศอันดับสอง 2,000 บาท และ รางวัลขวัญใจนักฟังเพลงไทย 500 บาท (2 รางวัล)


                สำหรับเกณฑ์การประกวด 1. ประกวดวงปี่พาทย์ไม้แข็งเครื่องคู่ เพลงแขกบรเทศ เถา (เนื้อร้องต้องประพันธ์ขึ้นใหม่มี เนื้อหาเกี่ยวกับ 100 ปี มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา) 2. ออกเดี่ยวชั้นเดียว และออกหางเครื่องตามความเหมาะสม (คิดคะแนน) 3. บรรเลงโหมโรงหรือเพลงนำได้ไม่เกิน 8 นาที (ไม่คิดคะแนน)  4. แต่ละโรงเรียนส่งประกวดได้ไม่เกิน 1 วง และนักดนตรีต้องเป็นนักเรียนที่กำลังศึกษาในปัจจุบันเท่านั้น (ยกเว้นปี่ใน สามารถให้บุคคลภายนอกบรรเลงได้)


                ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานคณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ มรภ.สงขลา โทร. 074-260264-5 หรือจากเฟซบุ๊ก ThaiMusicSKRUหลักสูตรศิลปกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาดนตรีไทย
74
เทศบาลเมืองคอหงส์จัดอบรมความรู้เกี่ยวกับการใช้เสียงตามสายภายในชุมชน


เมื่อวันอังคารที่ 23 กรกฎาคม  2562ที่ผ่านมา  นายฉลอง  พัฒโน รองนายกเทศมนตรีเมืองคอหงส์เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการอบรมให้ความรู้ หลักสูตร“ความรู้เกี่ยวกับการใช้เสียงตามสายภายในชุมชน เทศบาลเมืองคอหงส์” โดยมีคุณนาถนภา ทินกร เป็นวิทยากรในการอบรมดังกล่าว ณ ห้องประชุมพญาหงส์ สำนักงานเทศบาลเมืองคอหงส์









75
หาดทิพย์ เปิดสนาม รอบชิงฯ “ยุวชนหาดทิพย์คัพ” #8สร้างแรงบรรดาลใจ สู่เส้นทางนักฟุตบอลอาชีพ


               วันที่ 23 สค.2562 เวลา14.30น. ณ สนามกีฬามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา : ดร.ธีรพงศ์ เพชรรัตน์ ผู้ช่วยเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นประธานเปิดการแข่งขันฟุตบอล “ยุวชนหาดทิพย์คัพ” ครั้งที่ 8 รอบชิงชนะเลิศ ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนใต้ พร้อมด้วย ดร.พงศ์เทพ ไข่มุกด์รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี, นายไพโรจน์ จริตงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา, นายสมศักดิ์ จันทรชู นายอำเภอหาดใหญ่, นายพรรณภพ  อุ่นเสียม ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย ภาค 4, รศ.สมชาย ชูโฉม ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายศิษย์เก่าสัมพันธ์และการกีฬามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, นายประสงค์ บริรักษ์นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดสงขลา, คุณธงชัย  อันชูฤทธิ์ รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกัน มอบถ้วยชนะเลิศ และ รองชนะเลิศ ประจำจังหวัด ทั้ง 10 ทีม ของรอบคัดเลือก พร้อมร่วมชม และให้กำลังใจการแข่งขันคู่เปิดสนาม ระหว่างทีมโรงเรียนบ้านทุ่ง จ.สตูล & ทีมโรงเรียนอนุบาลยะรัง จ.ปัตตานี โดยมีกองเชียร์จากโรงเรียนเทศบาล 2 อ.หาดใหญ่ แขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชน ร่วมให้กำลังใจอย่างคึกคัก



คุณธงชัย  อันชูฤทธิ์ รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บมจ.หาดทิพย์ เปิดเผยว่า ฟุตบอล “ยุวชนหาดทิพย์คัพ” เกิดขึ้นจากดำริของ ร้อยตรี ไพโรจน์ รัตตกุล อดีตกรรมการผู้จัดการ เมื่อ 12 ปีก่อน ที่จะสร้างความสุขให้น้องๆในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยใช้กีฬาฟุตบอลเป็นสื่อกลาง และได้ขยายพื้นที่เพื่อเพิ่มโอกาสในการแสดงความสามารถแก่น้องๆยุวชนเป็น 5 จังหวัด ซึ่งการแข่งขันนี้จะไม่แบ่งเชื้อชาติ ศาสนา แต่จะมุ่งเน้นให้เยาวชนตระหนักถึงคุณธรรมหลักที่จะเป็นประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตในอนาคต ความรักในหมู่คณะ  การรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย โดยเราไม่ได้คาดหวังความเป็นเลิศครับ แต่บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน),ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้, จังหวัดสงขลา สตูล ยะลา นราธิวาส ปัตตานี, การกีฬาแห่งประเทศไทยภาค 4, สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดสงขลา, มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และพันธมิตรเรามีความตั้งใจในการจัดระบบการแข่งขันตามหลักฟุตบอลสากลให้ใกล้เคียงกับโค้กคัพมากที่สุด นอกจากนั้น เราได้เห็นนักกีฬาที่ผ่านสนามการแข่งขัน “ยุวชนหาดทิพย์คัพ” (7,275 คน) ได้นำประสบการณ์ดีๆ ระหว่างการแข่งขันไปพัฒนาตนเองและสานต่อฝันของตนเองในรูปแบบต่างๆ ที่แตกต่างกัน จนถึงการประกอบอาชีพ และใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข ซึ่งมีหลายคนได้ก้าวเข้าสู่อะคาเดมี่ของสโมสรต่างๆเช่น สโมสรราชบุรีมิตรผล เอฟซี,ชลบุรี เอฟซี,กรุงเทพคริสเตียน, การท่าเรือ เอฟซี, บางกอกกล๊าส เอฟซี, หาดใหญ่ซิตี้ เป็นต้น”


ด้าน ดร.ธีรพงศ์ เพชรรัตน์ ผู้ช่วยเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า  “การแข่งขันฟุตบอล “ยุวชนหาดทิพย์คัพ” เป็นอีก 1 โครงการดีๆที่มอบให้กับเยาวชนในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่รักในกีฬาฟุตบอล ให้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ซึ่งความพิเศษของแมทซ์นี้ ได้เสริมสร้างประสบการณ์ใหม่ๆให้กับเด็กๆ ทั้ง 10 ทีม ประสบการณ์ทางฟุตบอล หรือ การอยู่ร่วมกันด้วยความสุข ความสามัคคี และเป็นสนามที่สร้างโอกาสให้เด็กๆได้ต่อยอดสู่อะคาเดมี่ของสโมสรระดับประเทศ และนอกเหนือจากถ้วยรางวัล หรือชัยชนะที่เด็กๆจะได้รับ คือ มิตรภาพและความสุข ร่วมกันที่เกิดขึ้นระหว่างการร่วมกันทำกิจกรรม และการแข่งขันครับซึ่งจะมีการสานต่อในอนาคต”


โค้ชล็อต สาธิต เบ็ญโส๊ะผู้ฝึกสอน ระดับ AFC “A”-License certificate และหัวหน้าผู้ฝึกสอน สโมสรหาดใหญ่ ซิตี้ กล่าวว่า “ขอขอบคุณหาดทิพย์ที่มอบหมายหน้าที่สำคัญให้กับผมและทีมครับจากการฝึกเทคนิคพื้นฐานให้กับเด็กๆ ได้แก่ การเลี้ยงบอล การส่งบอล การโหม่ง และการรักษาประตู พร้อมแบบฝึกที่ให้เด็กๆสนุกสนานไปพร้อมกัน เราได้เห็นพรสรรค์และพัฒนาการของเด็กๆหลายๆคน ซึ่งเชื่อว่าหากได้รับการส่งเสริมและพัฒนาอย่างเช่นในวันนี้ต่อไปเรื่อยๆ เด็กๆจะมีโอกาสที่จะก้าวสู่การเป็นฟุตบอลอาชีพได้ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอนครับ”


นายวีรวัฒน์  ทองจินดา ผู้ฝึกสอนทีมโรงเรียนบ้านนาทวี จ.สงขลา เปิดเผยว่า “ทีมโรงเรียนบ้านนาทวี เคยเข้าร่วมการแข่งขันเป็นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว ได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 รอบคัดเลือกระดับจังหวัดสงขลา จึงกลับไปปรับระบบการฝึกซ้อมใหม่ ดูแลเรื่องการพักผ่อน เรื่องการรับประทานอาหาร เน้นการฝึกซ้อมระบบทีม ทำให้โรงเรียนของเราได้เข้าสู่ 10 ทีมสุดท้ายรอบชิงชนะเลิศในปีนี้ได้สำเร็จครับ ขอเป็นกำลังใจให้เด็กๆทุกทีม มีน้ำใจนักกีฬา และแข่งขันอย่างเต็มที่ สุดความสามารถครับ”


สำหรับปีนี้มีทีมเข้าร่วมแข่งขันในรอบคัดเลือก จำนวน 34 ทีม ทำการคัดเลือกทีมชนะเลิศ และรองชนะเลิศของแต่ละจังหวัด จำนวน 10 ทีม มาแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ระหว่างวันที่ 23-30 กรกฎาคม 2562 ณ สนามกีฬามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ โดยในรอบชิงชนะเลิศ ในรอบแรกแบ่งเป็น 2 สาย สาย A มี 5 ทีม ประกอบด้วย ทีมรร.บ้านสากอ จ.นราธิวาส, ทีมรร.บ้านกุปังปะโหลด จ.สตูล, รร.ศรีฟารีดาบารูวิทยา จ.ยะลา,ทีมรร.บ้านนาทวี จ.สงขลา, ทีมรร.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี และสาย B มี 5 ทีม ประกอบด้วย ทีมรร.คัมภีร์วิทยา จ.ยะลา, ทีมรร.บ้านศาลาใหม่ นราธิวาส, ทีมรร.บ้านทุ่ง จ.สตูล, ทีมรร.อนุบาลยะรัง จ.ปัตตานี, ทีมรร.รักเมืองไทย 6 จ.สงขลา แข่งขันแบบพบกันหมดในสาย นำทีมที่มีคะแนนเป็นที่ 1 และ 2 ของแต่ละสาย เข้าสู่รอบรองชนะเลิศ   ในการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ นำทีมทีมีคะแนนที่ 1 สาย A พบกับ ทีมที่มีคะแนนที่ 2 สาย B และทีมที่มีคะแนนที่ 1 สาย B พบกับ ทีมที่มีคะแนนที่ 2 สาย A ทีมที่ชนะในแต่ละคู่จะเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศต่อไป


สำหรับสนามที่ใช้ในการแข่งขันได้มาตรฐานระดับชาติ และคณะกรรมการตัดสิน-กติกาการแข่งขันที่เคร่งครัดโดยผู้ตัดสินจากสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งควบคุมการจัดการแข่งขันโดยการกีฬาแห่งประเทศไทยและสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมกันนี้ ได้เสริมความรู้ด้วยคลีนิคฟุตบอลเพื่อฝึกเทคนิคฟุตบอลเบื้องต้น พร้อมสอดแทรกเกมส์ต่างๆ เพื่อให้น้องๆสนุกกับฟุตบอล โดย “โค้ชล็อต'' สาธิต เบ็ญโส๊ะผู้ฝึกสอน ระดับ AFC “A”- License  certificate และหัวหน้าผู้ฝึกสอน สโมสรหาดใหญ่ ซิตี้ พร้อมด้วยสตาฟโค้ช และนักฟุตบอลอาชีพทั้งนี้ได้สอดแทรกกิจกรรมสันทนาการ เสริมสร้างพัฒนาการ การสร้างกำลังใจ การปรับตัว สร้างความสุข ร่วมกัน และในวันพักการแข่งขัน (28 ก.ค. 62) วันพักการแข่งขัน เด็กๆจะได้เข้าชมหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา สงขลา ซึ่งเป็นศูนย์การเรียนรู้ดาราศาสตร์ที่สำคัญในภาคใต้ หอดูดาวภูมิภาคสำหรับประชาชนเต็มรูปแบบแห่งที่ 3 ของไทย และยังเป็นศูนย์เรียนรู้ดาราศาสตร์มุสลิมแห่งแรกของไทย พร้อมเปิดโรงงานให้น้องๆ ได้เยี่ยมชมกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ โคคา-โคลา อย่างใกล้ชิด


ฟุตบอล “ยุวชนหาดทิพย์คัพ” คือ จุดเริ่มต้นที่ทำให้เยาวชนใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของเรา ได้ก้าวไปสู่อนาคตที่ดีกว่า อนาคตที่สดใส และเพื่อสังคมที่ดี









76
ภาครัฐและเอกชนจ.สงขลานำเสนอแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเชื่อมการท่องเที่ยวกับเก็นติ้งไฮแลนด์กรุ๊ป


                วันที่ 18 ก.ค.2562 เวลา 10.00 น.(เวลาประเทศไทย)  ณ.ห้องประชุม Genting Grand.  การประชุมแลกเปลี่ยนข้อมูลการท่องเที่ยวระหว่างGenting  โดย คุณ  Katherine Chew  Vice President Resot Communications & Public Relations เป็นผู้ให้ข้อมูลและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในครั้งนี้ กับ  ทีมงาน ฝ่ายไทย โดยมี นายราชิต สุดพุ่ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายสมศักดิ์ จันทรชู นายอำเภอหาดใหญ่นางสาวจินตนา สุวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานหาดใหญ่   นายสุรพล กำพลานนท์วัฒน์ นายกสมาคมสมาพันธ์ธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดสงขลานายเฉลิมวุฒิ เกษตรสมบูรณ์ ผู้อำนวยการสวนสัตว์สงขลาผู้เกี่ยวข้องทั้งหน่วยงานภาครัฐเอกชนและสื่อมวลชนตามคำเชิญของกลุ่มเครือข่ายเก็นติ้งไฮแลนด์กรุ๊ป ในโอกาสที่จะเชื่อมการท่องเที่ยวโดยนำพนักงานกว่าหนึ่งหมื่นสี่พันคนหมุนเวียนเดินทางมาเที่ยวหาดใหญ่สงขลาและจังหวัดใกล้เคียง.


โดยในการเดินทางได้รับการสนับสนุนและอำนวยความสะดวก ตลอดการเดินทางทั้งอาหารและที่พักโดย Mr.Jason Teoh(คุณฮวด)และคณะผู้บริหาร Hatyai Good Morning Tour Co.,Ltd..















77
ผอ.CATเขตใต้พร้อมคณะผู้บริหาร ร่วมบันทึกเทปถวายพระพรเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ


              วันที่ 11กรกฎาคม2562 นายศุภกิจ  ยอดแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงานบริการลูกค้า กสท เขตใต้ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด(มหาชน) พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ร่วมบันทึกเทปถวายพระพรเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ ห้องส่งสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT)จ.สงขลา




78
ศิลปกรรมฯ มรภ.สงขลา ผนึกศูนย์ส่งเสริมเศรษฐกิจฯ จัดอบรมออกแบบสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาย่านเมืองเก่า



                คณะศิลปกรรมศาสตร์ มรภ.สงขลา จับมือศูนย์ส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ CEA จัดอบรมการออกแบบสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาย่านเมืองเก่าสงขลา สร้างเครือข่ายนักศึกษา 3 มหาวิทยาลัย ร่วมพัฒนาท้องถิ่นอย่างยั่งยืน


                อาจารย์ชัยวัฒนภัทร เลาสัตย์ หลักสูตรการออกแบบ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) เปิดเผยว่า คณะศิลปกรรมศาสตร์ มรภ.สงขลา ร่วมกับศูนย์ส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ CEA  ซึ่งเป็นหน่วยงานสำคัญในการพัฒนาองค์ความรู้ด้านการออกแบบและส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศ จัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ “การออกแบบสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาย่านเมืองเก่าสงขลา” ระหว่างวันที่ 10-11 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุม 58-109 คณะศิลปกรรมศาสตร์ มรภ.สงขลา และโรงสีแดง หับ โห้ หิ้น ผู้เข้าร่วมอบรมประกอบด้วย นักศึกษาสาขาการออกแบบจาก 3 มหาวิทยาลัยในจังหวัดสงขลา ได้แก่ นักศึกษาหลักสูตรศิลปะการออกแบบ มหาวิทยาลัยทักษิณ นักศึกษาหลักสูตรการออกแบบแฟชั่นและสิ่งทอ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย และนักศึกษาหลักสูตรการออกแบบ มรภ.สงขลา โดยมุ่งหวังให้เป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างเครือข่ายนักศึกษา 3 มหาวิทยาลัยในการร่วมพัฒนาท้องถิ่นอย่างยั่งยืน


                อาจารย์ชัยวัฒนภัทร กล่าวว่า โครงการอบรมการออกแบบสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาย่านเมืองเก่าสงขลา มีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักศึกษาได้รับความรู้ความเข้าใจในการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ เพื่อความเป็นพลเมืองรักษ์สงขลาอย่างสร้างสรรค์ และเพื่อให้นักศึกษาได้รับความรู้ในด้านศิลปะและการออกแบบสร้างสรรค์เพื่อสังคม นอกจากนั้น ยังเป็นการเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ประยุกต์ใช้องค์ความรู้ทางด้านศิลปะและการออกแบบเพื่อการพัฒนาสังคมและเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน และพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยในการพัฒนาย่านเมืองเก่าสงขลา



                อาจารย์ประจำหลักสูตรการออกแบบ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มรภ.สงขลา กล่าวอีกว่า การจัดอบรมในครั้งนี้ได้รับเกียติจากวิทยากร ได้แก่ อ.วุฒิชัย เพชรสุวรรณ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านประวัติศาสตร์เมืองสงขลา จากภาคีคนรักเมืองสงขลาสมาคม นายยุทธนา จิตต์โต๊ะหลำ ประธานชุมชนบ้านนอก ตำบลหัวเขา และประธานชมรมอนุรักษ์ป่าชายเลนตำบลหัวเขา นางสาวปาริชาด สอนสุภาพ ประธานวิสาหกิจชุมชนการท่องเที่ยว Ecotourism Songkhla Thailand นายจักรกฤษณ์ ภัทรนิตย์ ประธานชมรมอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีเก้าห้อง จังหวัดสงขลา นายวัชชพล หรั่งแพ นักจัดการความรู้ศูนย์ส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ CEA นายนัฐพงษ์ พัฒนโกศัย นางสาวดลพร ชนะชัย จากบริษัท Cloud-Floor และทีมวิทยากรจากศูนย์ส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ CEA ตลอดจนคณาจารย์จากภาควิชาศิลปะและการออกแบบ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ดร.จรัญญา พหลเทพ และ อ.ศุภเดช หิมะมาน




   
79
ทม.คอหงส์ร่วมกับมูลนิธิโรงเจเต๋าบ้อเก็ง หาดใหญ่ แถลงข่าวการจัดงานมหาบุญ มหากุศล ไถ่ชีวิตโค ครั้งที่ 13


              วันที่11ก.ค.2562ที่มูลนิธิโรงเจเต๋าบ้อเก็ง หาดใหญ่ นายศักระ กปิลกาญจน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ที่เกี่ยวข้องด้านการท่องเที่ยว ประกอบด้วย นางสาวจินตนา สุวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานหาดใหญ่ นายฉลอง พัฒโน รองนายกเทศมนตรีเมืองคอหงส์ นายวิโรจน์ ทัฬหะวาสน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารงานบุคคล องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา นายสุรพล กำพลานนท์วัฒน์ นายกสมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา นายพิชัย วัฒนะพยุงกุล ประธานสมาคมไทย-จีน จังหวัดสงขลา นางธนิดา อธิธรากรกุล ประธานมูลนิธิโรงเจเต๋าบ้อเก็ง หาดใหญ่ อาจารย์เกียรติศักดิ์ วิเศษดอนหวาย เจ้าสำนักฝ่ายพิธีกรรม มูลนิธิโรงเจเต๋าบ้อเก็ง หาดใหญ่ และที่สำคัญที่สุดปีนี้ ได้รับเกียรติจาก นางสาวพรพิมล มั่นฤทัย ประธานบริษัท โคลีเซียม อินเตอร์กรุ๊ฟ เป็นประธานจัดงานไถ่ชีวิตโค ครั้งที่ 13 เมื่อวันที 11 กรกฎาคม 2562 ณ โรงเจเต๋าบ้อเก็ง ต.คอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา


นายศักระฯ กล่าวว่า การจัดงานไถ่ชีวิตโค เป็นกิจกรรมท่องเที่ยวอีกกิจกรรมหนึ่งของจังหวัดสงขลา เนื่องจากสถานการณ์การท่องเที่ยวเมืองหาดใหญ่ค่อนข้างจะเงียบเหงา แต่การจัดงานครั้งนี้ จะสามารถดึงนักท่องเที่ยว ซึ่งจังหวัดสงขลา เป็นประตูของพี่น้องอาเซียน ชาวมาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย โดยเฉพาะพี่น้องชาวมาเลเซีย/ซึ่งถือว่าเป็นตลาดใหญ่มาก การพยายาม ให้เกิดกิจกรรมการท่องเที่ยวในทุกๆ เทศกาล ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี ได้กระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ เพราะรายได้หลักของประเทศเรามาจากการท่องเที่ยว และหากมีความพร้อมกันทุกภาคส่วน โดยเฉพาะการร่วมมือกันระหว่างภาครัฐ และเอกชนในทุกท้องที่ ท้องถิ่น เกิดการพัฒนาในภาพรวม พี่น้องประชาชนจะได้มีรายได้เพิ่มขึ้น ได้กระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะส่งผลโดยรวมของเศรษฐกิจหาดใหญ่ และสงขลาด้วย














80
พ่อเมืองสงขลา อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากศรีลังกา ให้พุทธศาสนิกชนสักการะ



                ผู้ว่าราชการ จ.สงขลา อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากประเทศศรีลังกา ให้พุทธศาสนิกชนสักการะ ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติฯ มรภ.สงขลา ระหว่างวันที่ 10-14 ก.ค.62


                เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากประเทศศรีลังกา สู่มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) ในงานสานสัมพันธ์วัฒนธรรมวิถีพุทธไทย-ศรีลังกา เนื่องในโอกาส 270 ปี นิกายสยามวงศ์ในศรีลังกา และ 100 ปี มรภ.สงขลา จัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-14 กรกฎาคม 2562 ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติฯ วัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างเครือข่ายทางพระพุทธศาสนาในประเทศไทยและศรีลังกา ทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาส 100 ปี แห่งการก่อตั้งมหาวิทยาลัย และส่งเสริมการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมทางพระพุทธศาสนา ที่สำคัญ เป็นการเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนได้ปฏิบัติบูชา ถวายพระราชกุศลแด่รัชกาลที่ 9 และเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 10


ทั้งนี้ พิธีเริ่มจากคณะสงฆ์นิกายสยามวงศ์ จากประเทศศรีลังกา และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เคลื่อนขบวนรถแห่อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุออกจากบริเวณวัดหัวป้อมใน มาถึงหน้าอาคารเรียน 2 มรภ.สงขลา คณะผู้บริหารรับผอบพระบรมสารีริกธาตุจากพระสงฆ์นิกายสยามวงศ์ ทำทักษิณาวรรตรอบบริเวณเกาะลอยที่ประดิษฐานพระพุทธมงคล เดินนำขบวนแห่อัญเชิญเข้าสู่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติฯ จากนั้นประธานในพิธีอัญเชิญผอบพระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานบนบุษบกและถวายเครื่องสักการบูชา พระสงฆ์นิกายสยามวงศ์ กล่าวมอบพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อให้ มรภ.สงขลา ดูแลและจัดกิจกรรมบูชาเป็นเวลา 5 วัน




หน้า: 1 ... 6 7 [8] 9 10